“คุณหญิงสุดารัตน์” นำทีมพรรคไทยสร้างไทยรับผู้ป่วยโควิด 2 ราย ซ.จรัญฯ 37 ส่ง รพ.ธนบุรี เตือนรัฐบาลต้องแก้วิกฤตให้จบภายในสัปดาห์นี้ แนะเร่งกระจายงบฯลง รพ.แก้เตียงไม่พอ จี้นายกฯ งัดงบกลาง 5 แสนล้านแก้วิกฤต
วันนี้ (26 เม.ย. 64) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย นำทีม กทม.รวมพลังสู้ภัยโควิด ของพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เขตบางกอกน้อย กทม. เพื่อประสานงานรถพยาบาลมารับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย โดยเป็นผู้ป่วยเป็นเพศชาย 1 ราย และเพศหญิง 1 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ทั้งนี้ ผู้ป่วยชายมีอาการไข้ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. ส่วนภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน เริ่มมีไข้เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 23 เม.ย. โดยสามีมีไข้สูง มีอาการหอบหืด อาการหนักจนพูดไม่ไหว ส่วนภรรยาก็เป็นห่วงลูกในท้อง เมื่อทีม กทม.พรรคไทยสร้างไทยทราบข่าว จึงได้นำทีมมาช่วยประสานงานฉีดพ่นฆ่าเชื้อในอาคารอพาร์ตเมนต์ที่มีผู้ป่วยโควิด-19 และประสานเพื่อนำผู้ป่วยไปรักษา
คุณหญิงสุดารัตน์เปิดเผยว่า เวลานี้เราต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อให้ประชาชนรอดก่อน กรณีนี้ตั้งแต่รู้ผลการตรวจว่าผู้ป่วยติดเชื้อเมื่อวันที่ 23 เม.ย. เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าต้องรอเตียงซึ่งไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ วันนี้ทีมงานของเราจึงได้ประสานโรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทางโรงพยาบาลธนบุรี ให้นำผู้ป่วยไปรักษา เราจึงจัดรถพยาบาลมารับผู้ป่วยทั้งคู่ไปส่ง
“สถานการณ์โควิด-19 เริ่มวิกฤต และน่าหนักใจ การบริหารจัดการต้องเร่งรีบแก้ไขตั้งแต่วันนี้ อย่างในรอบนี้ป่วยวันละ 2 พันกว่าคน อาทิตย์ละหมื่นกว่าคน เราต้องเร่งรีบในการหาเตียงและเครื่องไม้เครื่องมือรองรับโดยเร่งด่วน” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า ในการระบาดรอบที่ 3 มีผู้ป่วยหนักจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และผู้เสียชีวิตเฉพาะในรอบ 20 กว่าวันนี้ สูงถึง 54 ราย แสดงว่าการบริหารจัดการเรื่องเตียง และการตรวจ ที่ไม่ทันการณ์และไม่เพียงพอ ทำให้คนป่วยหนัก และเสียชีวิตมากขึ้น
“ต้องเร่งแก้ปัญหาให้จบภายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่ระบบสาธารณสุขจะรองรับไม่พอ” แกนนำพรรคไทยสร้างไทยกล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้เสนอ 2 แนวทางในการแก้ไขสถานการณ์ คือ 1. เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเตียงไม่พอ ต้องเร่งกระจายงบประมาณจากส่วนกลางไปให้แต่ละโรงพยาบาล เพื่อให้โรงพยาบาลมีงบในการดูแลผู้ป่วยให้เพียงพอ ทั้งเรื่องเตียง อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการรักษา รวมทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือที่จะใช้ในการป้องกันบุคลากรทางการแพทย์เอง และ 2. เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องตรวจหาเชื้อน้อย และตรวจช้า โดยให้รัฐบาลตั้งงบประมาณในการตรวจโควิด-19 ไว้ให้โรงพยาบาล 1,600 ล้านบาท ซึ่งจะตรวจได้ 1 ล้านคน ตามที่ สปสช.กำหนดจ่ายค่าตรวจหัวละ 1,600 บาท
“หวังว่าในวันที่ 27 เม.ย. นายกรัฐมนตรีจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร่งใช้งบกลางที่ตั้งไว้ 5 แสนล้านบาท มาแก้ไขปัญหาให้กับโรงพยาบาลและประชาชนโดยด่วน รวมถึงการใช้งบประมาณเงินกู้โควิด-19 ต้องเร่งรัดใช้จ่ายโดยเร็ว เพื่อให้โรงพยาบาลได้รับเงินไปทำงานอย่างเร็วที่สุด” คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ