พรรคพลังอนาคต-รวมพลังคนรุ่นใหม่ จับมือควบรวมเป็นพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ เตรียมลองสนามผู้ว่าฯ กทม. ก่อนส่ง ส.ส.ครบ 350 เขต
วันนี้ (20 เม.ย.) นายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ หัวหน้าพรรคพลังอนาคต พร้อมด้วยนายสิรวิทย์ ช่วงเสน หัวหน้าพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ แถลงข่าวการรวม 2 พรรคการเมืองแล้วจะใช้ชื่อพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่เป็นหลักในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยนายสิรวิทย์กล่าวว่า ตอนยื่นขอจดจัดตั้งพรรค 2 พรรคได้มีการตกลงกันว่า ถ้าใครสามารถจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองได้ก่อน อีกฝ่ายก็จะมาร่วมเพราะว่ามีอุดมการณ์เดียวกันคือเพื่อประชาธิปไตย ทำให้วันนี้พรรคพลังอนาคตจะมารวมกับพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ โดยตนจะเป็นหัวหน้าพรรค และนายจักรพันธ์ เข้ามาเป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งเราต้องการเข้ามาทำการเมืองเพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่าพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ คือหนึ่งในความหวังของเลือดนักการเมืองคนรุ่นใหม่ คิดแบบใหม่ ทำแบบใหม่ ต้องการช่วยเหลือประชาชนจริงๆ และยืนยันว่าพรรคเราไม่มีพรรคไหนครอบงำ หรือเป็นพรรคสแปร์ของใคร โดยหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการจัดตั้งสาขาทั้ง 4 สาขา เพื่อส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ครบ 350 เขตทั่วประเทศ รวมถึงการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อเปิดชื่อมาจะไม่ใช่เป็นเพียงไม้ประดับ แต่ขณะนี้อยู่ในขั้นของการทาบทามจึงขออุบชื่อไว้ก่อน
“จากนี้จะได้เห็นพรรคการเมืองที่เผ็ดไม่แพ้พรรคการเมืองรุ่นพี่ๆ อย่างแน่นอน เพราะเราต้องการการเมืองแบบใหม่ ตรงไปตรงมา สัมผัสเกาะติดกับประชาชนจริงๆ เพื่อรับฟังปัญหา สร้างความจริงใจและเรียกความเชื่อมั่น ศรัทธาประชาชนกลับมา เพราะการเมือง 2 ปีที่ผ่านมามีแต่สาดสีใส่กันในสภา เชื่อว่าไม่อยากเห็นแบบนี้ แต่ต้องการนักการเมืองแบบใหม่ที่ช่วยเขาได้จริง ไม่ใช่แค่วาทกรรม หรือแค่คำพูด”
เมื่อถามว่าตามแนวทางของพรรคมีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสิรวิชญ์กล่าวว่า รู้จักกับแกนนำพรรคก้าวไกลหลายคนและเคยร่วมงานกันมาก่อน ส่วนจะร่วมงานกันหรือไม่นั้นก็ต้องดูเป็นกรณีไป เพราะบางเรื่องก็ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล
ขณะที่นายจักรพันธ์มองว่า ขณะนี้รัฐบาลมีปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และจุดอ่อนในเรื่องเทคโนโลยี ซึ่งพรรคเรามีความสามารถที่จะช่วยเหลือประเทศได้เป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 17 ต.ค. 2562 นายจักรพันธ์ หรือ ดร.อ้วน เจ้าของฉายา “มิสเตอร์พันล้าน” หรือพ่อมดน้อยด้านการเงิน หลานของนายสำเภา ประจวบเหมาะ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ยื่นขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคพลังอนาคต ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ท่ามกลางการถูกจับตามองเนื่องจากเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจ รวมทั้งถูกมองว่าการจัดตั้งพรรคพลังอนาคตก็เพื่อเป็นพรรคสำรองของพรรคอนาคตใหม่ที่ในขณะนั้นกำลังเผชิญปัญหาการถูกร้องยุบพรรคเนื่องจากพรรคกู้เงิน 191 ล้านจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค แต่หลังครบกำหนดเวลา 180 วันหลังยื่นจดแจ้งขอจัดตั้งแล้วพรรคไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดได้ เช่น การหาสมาชิก 500 คน ทุนประเดิม 1 ล้าน ผู้ร่วมจัดตั้งพรรค 250 คน จึงทำให้คำขอจดจัดตั้งพรรคสิ้นผลไป