xs
xsm
sm
md
lg

อีหรอบเดิม “ทีมธนาธร” หมดพลังพ่าย ส.ท.ยับ !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ  ลงพื้นที่ติวเข้มผู้สมัครเลือกตั้งเทศบาล
เมืองไทย 360 องศา


แม้ว่าในเพจของ “คณะก้าวหน้า” ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ที่อยู่ในทีมเดียวกัน จะแสดงความยินดี โชว์ให้เห็นว่า ผู้สมัครนายกเทศมนตรีที่พวกเขาสนับสนุน ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา 10 แห่ง พร้อมกับขอบคุณทุกคะแนนเสียง และยืนยันว่า จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในระดับท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความก้าวหน้ากว่า อะไรประมาณนั้น

แน่นอนว่า จากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา มีจำนวน 2,472 แห่ง เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ ที่ “ทีมคณะก้าวหน้า” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ไปก็คร่าวๆ น่าจะเพียงร้อยละ 0.5 เท่านั้น และในจำนวนกว่าสองพันแห่งดังกล่าว ก็ต้องนับรวมในระดับเทศบาลตำบลรวมอยู่ด้วย
ที่กล่าวแบบนี้แน่นอนว่า ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นเสียงของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่นระดับใด เพราะตามประชาธิปไตยถือว่าทุกเสียงมีค่าไม่ต่างกัน แต่หากพิจารณาจากความเป็นจริงก็ต้องบอกว่า ในระดับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง กลุ่มของคณะก้าวหน้า พ่ายยับแบบหมดรูป
โดยเฉพาะระดับเทศบาลนครบางแห่งที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงกับลงพื้นที่ “ชี้นำ” การหาเสียงอย่างจริงจัง ที่เห็นได้ชัดก็คือ เทศบาลนคร นครราชสีมา ซึ่งถือว่าเป็นเทศบาลที่ใหญ่ที่สุด มีการบริหารงบประมาณเกือบสองพันล้านบาทต่อปี ที่ผู้สมัครของนายธนาธร พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครในทีม “โคราชชาติพัฒนา” ที่เอาชนะไปได้ด้วยคะแนนเสียง 23,500 ต่อ 10,367 คะแนน โดยในพื้นที่ดังกล่าวนี้ นายธนาธร หมายมั่นปั้นมือ อยากให้ “ปักธง” ให้ได้ ถึงขนาดลงพื้นที่มีประชุม ติวเข้มผู้สมัครด้วยตัวเอง
ขณะที่ เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เทศบาลนครหาดใหญ่ รวมทั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ ก็มีผลออกมาไมได้ต่างกัน บางพื้นที่ เช่น ที่เทศบาลนครเชียงใหม่ กลายเป็นว่าเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างกลุ่ม “บูรณุปกรณ์” และ พรรคเพื่อไทย ขณะที่ “กลุ่มธนาธร” ขาดลอยแทบไม่เห็นในจอเลยก็ว่าได้ ไม่ต้องพูดถึงพื้นที่ทางภาคใต้ ที่เจาะไม่ได้อยู่แล้ว
แม้ว่าในภาพรวมๆ แล้วผลจากการเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับเทศบาลครั้งนี้ ถือว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในแบบมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลที่ออกมายังเป็นลักษณะของ “กลุ่มตระกูล” หรือทายาทการเมืองที่เคยผูกขาดการบริหารต่อเนื่องกันยาวนาน แม้ว่าหลายพื้นที่จะมีการ “โค่นแชมป์” แต่ก็จะเป็นในลักษณะที่ว่า คนที่ชนะก็ล้วนเป็น “หน้าเก่า” หรือเป็นทายาทของตระกูลการเมืองเก่าที่เคยบริหารมาก่อน สลับกันไป
ขณะเดียวกัน หากโฟกัสไปเฉพาะ “กลุ่มก้าวหน้า” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่แม้จะพยายาม “เคลม” ผลการเลือกตั้งชนะไปได้ทั้งหมด 10 แห่ง อย่างน้อยก็เป็นการตอบโต้เสียงเยาะเย้ยว่าไม่ได้ “กินไข่” แบบเป็น “ศูนย์” เหมือนกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศที่ผ่านมา ที่พ่ายแพ้ยับเยินเสียหายจนแทบเอา “ปี๊บคลุมหัว” มาคราวนี้จึงต้องออกตัวแบบระมัดระวัง และจะเน้นเฉพาะพื้นที่ที่พอหวังผล หรือหวังจะสร้างฐานการเมืองในอนาคต
แต่เมื่อผลออกมาในระดับเทศบาลนคร ที่มีขนาดใหญ่ และส่งผู้สมัครพร้อมทั้งติวเข้มด้วยตัวเอง ก็ยังไม่สำเร็จอยู่ดี นั่นคือ “แพ้ขาด” แบบไม่เห็นฝุ่นอย่างที่ทราบ และผลที่ออกมาแบบนี้ทำให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงกับ “กบดานเงียบ” ยังไม่ออกมาโพสต์แสดงความเห็นใดๆ ออกมา

ผลจากการเลือกตั้งคราวนี้ ยังเป็นการชี้ชัดอีกว่า “กระแส” ของเขา รวมไปถึงพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคในเครือข่าย “หมดพลัง” โดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะหากพิจารณาจากการเลือกตั้งเทศบาล ที่ถือว่าอยู่ใน “เขตเมือง” หากจะบอกว่าเป็นพื้นที่ของคนที่มีความรู้ มีข้อมูลทางการเมืองไม่น้อย และเชื่อว่า นายธนาธร กับทีมงานของเขาก็คงมั่นใจลึกๆ ว่า น่าจะได้รับการสนับสนุนจากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีทั่วประเทศในครั้งนี้ โดยเฉพาะจาก “คนรุ่นใหม่” ที่พวกเขาพยายามชักจูงอยู่ แต่ผลที่ออกมาถือว่า “น่าผิดหวัง”
ผลปรากฏว่า “กระแสธนาธร” ไม่ได้มีอยู่จริง หรือไม่ก็ “ฝ่อ” จนระดับปกติไม่ต่างจากนักการเมือง “บ้านๆ” ที่มีอยู่ในพื้นที่ อาจจะโดดเด่นบ้างเวลามีคนเข้ามาขอถ่ายรูป แต่ผลการเลือกตั้งที่ออกมามัน “โกหกไม่ได้” เพราะหากกระแสแรงจริง หรืออย่างน้อยแรงกว่านี้ เชื่อว่า ผู้สมัครใน “กลุ่มก้าวหน้า” จะต้องเข้าวินในระดับเทศบาลนคร สักแห่งสองแห่ง
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นชัดอีกว่า ภาพลักษณ์ของ “ขบวนการล้มเจ้า” ยังตามหลอนพวกเขาชัดเจนกว่าเดิม และแน่นอน น่าจะส่งผลสะเทือนไปถึงการเลือกตั้ง ส.ส.คราวหน้าอีกด้วย เพราะเมื่อพิจารณาจากผลสำรวจล่าสุดที่ออกมา ปรากฏว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พ่ายแพ้ แม้กระทั่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เสียอีก
ดังนั้น หากพิจารณาจากผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งล่าสุด สำหรับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แล้วถือว่า “หมดรูป” หมดทางฟื้น เพราะพิสูจน์ให้เห็นชัดเลยว่า ไม่อาจสร้างกระแส หรือ “หมดพลัง” ทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง ไม่ต่างจากระดับการเมือง “บ้านๆ” เท่านั้น !!


กำลังโหลดความคิดเห็น