xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจฯ ถกหาทางออกงบ อปท.เบิกจ่ายไม่ทัน ประสาน มท.-สำนักงบฯ ช่วยกลั่นกรองโครงการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปธ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ประชุมหาทางออกงบประมาณ อปท.เบิกจ่ายไม่ทันตามปีงบประมาณ ประสาน มท.-สำนักงบฯ ช่วยกลั่นกรองโครงการ วินิจฉัย พ.ร.บ.งบฯ ปี 61 มาตรา 43 และ 55 ไม่มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

วันนี้ (19 เม.ย.) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายอดิศร ร่มสนธิ์ รองเลขาธิการ และคณะ ร่วมประชุมกับกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ ผ่านระบบ Zoom หลังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ร้องเรียนกรณีมีปัญหาและข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่อันเกิดจากพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561

พล.อ.วิทวัสกล่าวว่า สำนักงานเทศบาลนครยะลาได้ร้องเรียนกรมบัญชีกลางกรณีให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณที่ได้มีการกันเงินและขอขยายเวลาเบิกเงินจากคลังไว้ก่อน พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณ ปี พ.ศ. 2555-2562 ที่ได้ขอกันไว้ได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้งบประมาณนั้นต้องถูกพับไปโดยผลของกฎหมาย หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความจำเป็นต้องจัดหางบประมาณเพื่อเบิกจ่ายให้แก่คู่สัญญาที่ได้เข้าทำสัญญาโดยสุจริตไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการบริหารสัญญา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นก็อาจพิจารณาโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่าย หรือมีความจำเป็นน้อยกว่าไปตั้งเป็นรายการใหม่เพื่อเบิกจ่ายให้แก่คู่สัญญา หากเงินงบประมาณมีไม่เพียงพอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงิน อาจขอทำความตกลงกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อนำเงินสะสมไปใช้ในกรณีดังกล่าว ซึ่งสำนักงานเทศบาลนครยะลาเห็นว่า พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 43 และมาตรา 55 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย เป็นการสร้างปัญหาความอิสระในการบริหาร การจัดทำบริการสาธารณะ ไม่ส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

พล.อ.วิทวัสกล่าวว่า พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2561 มีเจตนารมณ์เพื่อให้การบริหารจัดการการใช้งบประมาณของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกหน่วยงานของรัฐที่ใช้งบประมาณแผ่นดินต้องมีวินัยการเงิน-การคลัง รู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างถูกต้อง มีระบบ และเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานต้องปรับวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการแจ้งเตือนให้หน่วยงานทราบก่อนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 โดยคาดว่ายังมี อปท.อื่นๆ กว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศที่อาจจะประสบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ด้วย ซึ่งจากการหารือในวันนี้เพื่อให้เกิดแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงระบบ

ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้มีคำวินิจฉัย ดังนี้ คือ พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 43 และมาตรา 55 ไม่มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ทัน และเปลี่ยนแปลงแก้ไขงบประมาณไม่ได้ รวมทั้งไม่มีเงินสะสมเพียงพอที่จะนำไปจ่ายให้กับคู่สัญญา มอบหมายให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นร่วมกับกระทรวงมหาดไทย พิจารณากลั่นกรองโครงการของ อปท.ที่เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าว โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงนามขอใช้งบกลางไปยังสำนักงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดสรรงบประมาณให้ อปท.ดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นี้

ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดในการติดตาม กำกับดูแล การบริหารจัดการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจ ให้คำแนะนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดทำร่างขอบเขตงาน ตลอดจนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นการล่วงหน้า เพื่อที่ว่าเมื่องบประมาณของปีใหม่ได้รับการจัดสรรมาแล้วจะได้ลงนามในสัญญาได้ และใช้จ่ายงบประมาณได้ทันตามกำหนดเวลา










กำลังโหลดความคิดเห็น