“กรมคุ้มครองสิทธิฯ ก.ยุติธรรม” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ ติดตามความคืบหน้าการเยียวยาผู้สื่อข่าว จากเหตุโดนกระสุนยางขณะรายงานข่าวม็อบ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม แจงมีสิทธิได้รับเยียวยาค่ารักษา-ฟื้นฟูร่างกาย-ค่าขาดประโยชน์
วันนี้ (30 มี.ค. 64) ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 นายวันฉัตร วณิชพันธุ์ คณะที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายพัสกร เพชรในหิน ผู้อำนวยการกองมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน ลงพื้นที่ให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหาย จากกรณี น.ส.พนิตนาฏ พรหมบังเกิด ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ถูกกระสุนยางจากการสลายการชุมนุม ยิงเข้าที่บริเวณขมับขวา บริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 20 มี.ค.64 ที่ผ่านมา และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น โดยมีนายธีระ ธัญญะอนันต์ผล บรรณาธิการบริหาร สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ร่วมหารือและให้การต้อนรับ
โดยนายวันฉัตรกล่าวระหว่างหารือตอนหนึ่งว่า เรื่องการเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาเป็นภารกิจที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนในประเทศล้วนมีสิทธิเข้าถึงอย่างเท่าเทียม โดยได้กำชับให้กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ รวมถึงหน่วยงานต่างของกระทรวงยุติธรรมนั้นทำงานเชิงรุกเข้าถึงบริการประชาชนอย่างรวดเร็ว และเร่งประชาสัมพันธ์ถึงสิทธิต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบในทุกช่องทาง
“ในกรณีของผู้สื่อข่าวที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม รมว.ยุติธรรมมีความเป็นห่วง เพราะทราบดีว่าการทำหน้าที่สื่อมวลชนในสถานการณ์ขัดแย้งและในเหตุการณ์ความรุนแรงนั้นมีความเสี่ยง เพราะต้องรายงานสถานการณ์ต่างๆ จากสถานที่จริง ดังนั้น การถูกลูกหลงจึงไม่สามารถคาดเดาได้ จึงอยากแจ้งให้สื่อมวลชนนั้นเข้าใจว่า หากได้รับการบาดเจ็บเมื่อปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนมีสิทธิได้รับการเยียวยาเบื้องต้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายจิตใจ ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ เป็นต้น โดยการพิจารณานั้นต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และดุลพินิจของกรรมการตรวจสอบ” นายวันฉัตรระบุ
สำหรับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายตามแนวทางยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน โดยลงพื้นที่ ณ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เข้าพบ น.ส.ศุภิสรา พรหมบังเกิด น้องสาวผู้เสียหาย ซึ่งได้รับแจ้งว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะจากการถูกยิงด้วยกระสุนยาง ทำให้มีเลือดออกในสมอง เข้ารับการรักษาที่ห้อง ICU แต่รู้สึกตัวดี ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งสิทธิและรับคำขอค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 รวมทั้งให้คำแนะนำการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาการฟ้องคดีแพ่งและการขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์เบื้องต้นคดีนี้ หากผู้บาดเจ็บไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ กรณีความผิดต่อร่างกายต่อไป