รมช.เกษตรฯ ดอดนำคณะ ว.5 ลุยตรวจสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการฯ สกัดธุรกรรม หลังพบพฤติกรรมคล้าย แชร์ลูกโซ่พ่วงระบบสหกรณ์กลางกรุง ด้านผู้ก่อตั้งพร้อมแก้ไขให้ถูกต้อง
วันนี้ (26 มี.ค.) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ พร้อมด้วยนายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ ที่ปรึกษา รมช. และคณะ เพื่อปฏิบัติการเข้าตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการ และผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงาน ย่านรัชดา กรุงเทพมหานคร โดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ประสานเจ้าหน้าที่ของบริษัทก่อนที่จะถึงอาคารที่ทำการเท่านั้น เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามามากว่า บริษัทดังกล่าวมีการเปิดเป็นรูปแบบสหกรณ์ แต่พฤติกรรมมีการนำธุรกิจบริษัทจำนวนมากเข้ามาพัวพัน ให้ผลประโยชน์ตอบแทนเกินกฎหมายหรือไม่ และพบพฤติกรรมรับฝากเงินจากบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิกสหกรณ์ ไม่มีผู้จัดการสหกรณ์ ไม่มีการทำบัญชีทางการเงิน ไม่มีการประชุมสมาชิกสหกรณ์เป็นต้น ใช่หรือไม่ จึงต้องเข้าตรวจสอบเร่งด่วนก่อนที่จะเสียหายมากกว่านี้ เพราะปรากฏการโฆษณาธุรกรรมให้คนมาลงทุนใหญ่โตมาก อาจจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
นางสาวมนัญญา กล่าวว่า เมื่อรับเรื่องร้องเรียนก็ได้มีการตรวจสอบข้อมูลก่อน ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รายงานว่า บริษัทนี้เพิ่งตั้งเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา โดย นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อีกทั้งตรวจพบว่า บริษัทรายงานว่า มีสมาชิกจำนวน 319 คน มีเงินบัญชี 4.5 ล้านบาท
แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ขอถอนเงินจากบริษัทนี้ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มีชื่อเป็นเป็นผู้ฝากเงิน และไม่มีชื่อเป็นสมาชิกสหกรณ์ แสดงให้เห็นว่า มีพฤติกรรมรับฝากเงินจากบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิก นอกจากนั้น ยังพบว่า มีการจ่ายผลประโยชน์มากกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น การจ่ายเงินปันผล 19% และให้ทองคำจูงใจเป็นขั้นบันได เป็นต้น
“เรื่องที่นายประสิทธิ์ชี้แจง ดิฉันต้องไม่ปล่อยผ่าน และก็แจ้งต่อนายประสิทธิ์โดยตรงด้วยว่า แบบนี้ที่ทำ เหมือนกับแชร์ลูกโซ่ เราก็เด็กต่างจังหวัดเห็นแชร์ลูกโซ่มาเยอะ ถ้าปล่อยผ่านไปจะเสียหาย คนจะเดือดร้อน ใช่หรือไม่ จะมาอ้างว่า ทำวิสาหกิจชุมชนนำสินค้ามาขายกับกองทัพ ทหาร ตำรวจ ก็อีกส่วน เพราะเป็นเรื่องของบริษัทที่จะไปทำการค้า นายประสิทธิ์ จะนำมาบวกในกิจการของสหกรณ์ไม่ได้”
“นายประสิทธิ์ ก็ยอมรับ ก็ให้ไปแยกระบบสหกรณ์ให้ชัดออกมาว่า อะไรคืองานที่ทำในรูปสหกรณ์ อะไรที่ทำในนามบริษัท เพราะสหกรณ์ไม่เสียภาษี แต่บริษัทต้องเสียภาษี จะมาแฝงรายได้วนไปมาแบบนี้ไม่ได้ มีหลายเรื่องที่นายประสิทธิ์ต้องไปแก้ไขให้ถูกต้อง แต่ในส่วนที่เกี่ยวกับกฎหมายสหกรณ์ที่ดิฉันดูแล ให้เวลา 7 วัน ไปเคลียบัญชี ถ้าอะไรทำไม่ได้ ทำไม่ถูกก็ต้อง ปิดๆ ไปบ้าง” รมช.เกษตรฯ กล่าว
นอกจากนั้น จากการตรวจสอบของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ก็ยังพบข้อผิดพลาดร่วมกัน 12 เรื่อง อาทิ การจดจัดตั้งที่ทำการสหกรณ์ที่ปรากฏว่า มีการจดซ้อน 2 ที่ คือ ที่ย่านรัชดา และอีกแห่งย่านเพลินจิต การแจ้งว่า มีธุรกรรมบัญชี 2 บัญชี แต่ตรวจสอบพบว่า มีอีก 4 บัญชีที่ปกปิดไม่แจ้ง การไม่มีการประชุมกรรมการสหกรณ์ หรือประชุมสมาชิกสหกรณ์ การจ่ายปันผล และผลประโยชน์ตอบแทนที่ผิดกฎหมาย การรับฝากเงินจากบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิก ไม่มีผู้จัดการสหกรณ์ การไม่ชำระบัญชีให้เป็นปัจจุบัน และบัญชีที่รายงานกรมส่งเสริมสหกรณ์ ล่าสุดคือ มิ.ย. 2563 เป็นต้น
นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กล่าวยอมรับว่า ดำเนินการผิดพลาดและจะนำไปแก้ไข ซึ่งเหตุมาจากมีผู้ร่วมงาน 23 บริษัท และมีหลายธุรกิจ ทั้งค้าออนไลน์ วิสาหกิจ ทำให้อาจมีข้อผิดพลาด ส่วนการจ่ายปันผล หรือโบนัสมาก เพราะเป็นเหมือนการส่งเสริมการออมให้สมาชิก ในขณะที่การรับฝากเงินบุคลลอื่นอาจจะเป็นพนักงาน พ่อแม่ ญาติพี่น้องด้วย ก็น้อมรับผิดแต่ผู้เดียว และจะแก้ไขตามที่ทั้งสองกรมแนะนำ