นายกฯ กังวลร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ถ้าไม่ผ่านรัฐบาลอยู่ไม่ได้ ขอพรรคร่วมช่วยกันโหวตผ่าน จ่อลงพื้นที่พบปะประชาชนหลังฉีดวัคซีนโควิดโดส 2 แล้ว สั่งทุกกระทรวงพีอาร์งาน-เร่งหาโครงการเยียวยากระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้า
วันที่ 23 มี.ค.ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม โดยนายกฯ อารมณ์ดีเป็นพิเศษ และบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเมื่อเข้าสู่วาระพิจารณาการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบโควิด ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบโครงการทัวร์เที่ยวไทย ซึ่งเป็นวาระที่มีการพูดคุยกันใช้เวลานาน นอกจากนี้ เมื่อเข้าสู่วาระสภาผู้แทนราษฎร นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รายงานเรื่องร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ว่า เป็นกฎหมายที่สำคัญ และถือเป็นเสถียรภาพของรัฐบาล และหากไม่ผ่านอาจจะต้องออกเป็นร่าง พ.ร.บ.แก้ไข ขอให้ช่วยกันทำให้กฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา โดยนายกฯ กังวลในเรื่องการลงมติร่าง พ.ร.บ.ประชามติในวาระ 3 ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันลงมติให้ผ่าน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่ผ่านรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้
นอกจากนี้ ครม.ยังหารือในเรื่องการเสนอให้ต้มยำกุ้งขึ้นทะเบียนยูเนสโก เป็นมรดกวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ โดยใช้เวลาพูดคุยในเรื่องดังกล่าวนาน เนื่องจาก นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ เสนอว่า อยากให้ต้มยำกุ้งมีครบทั้ง 10 รสชาติ เพื่อให้มีรสชาติมากที่สุด เพราะอาหารฝรั่งมีแต่รสชาติจืด ต้มยำกุ้งแปลกตรงที่มีหลายรสชาติง่ายต่อการชนะ เพราะเราต้องแข่งขันกัน
ขณะที่ในช่วงท้ายการประชุม นายกฯ ได้พูดถึงกรณีชาวบางกลอย และกรณีที่ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ถอนตัวจากคณะทำงานบางกลอย ภายหลังกลุ่มชาวบางกลอยไม่พอใจ เรียกร้องให้ออกจากกลไกการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งนายกฯ ระบุว่า เขาไปเพื่อไปดูตามหน้าที่และนำมารายงานให้คณะกรรมการรับทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ เตรียมลงพื้นที่พบปะประชาชน และประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) หลังจากฉีดวัคซีนโดส 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสั่งให้ทุกกระทรวงเร่งหาโครงการเยียวยาประชาชน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงให้ทุกกระทรวงประชาสัมพันธ์งานต่างๆ ที่ได้ทำไปแล้วให้ประชาชนรับรู้
มีรายงานว่า ในการประชุม ครม.ในเดือน เม.ย.จะมีการเลื่อนการประชุมจากเดิมในวันที่ 6 เม.ย. เป็นวันที่ 7 เม.ย. เนื่องจากวันที่ 6 เม.ย.ตรงกับวันจักรี ส่วนการประชุม ครม.ในวันที่ 13 เม.ย.นั้น ตรงกับวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ และวันหยุดยาวหลายวัน จึงทำให้ไม่มีการประชุม จะเลื่อนไปเริ่มประชุม ครม.ในอีกสัปดาห์หนึ่ง คือ ในวันที่ 20 เม.ย.แทน