“วิษณุ” เผย “วิปรัฐบาล” คุยแก้ รธน.อยู่ ชี้กฎหมายประชามติยังมีประเด็นใหญ่อีกหลายขยัก ระบุกฎหมายที่รัฐบาลเสนอถ้าผ่านวาระหนึ่งแล้วถูกคว่ำโดยสภา รัฐบาลก็ไม่ต้องรับผิดชอบ
วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ส่วนตัวไม่ทราบ แต่คนอื่นจะคุยกันหรือไม่นั้นตนไม่รู้ รวมถึงใครจะเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ขอให้เขาไปคุยกันก่อน แล้วเสนอมาเราจะไปบอกเขาก่อนทำไม เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะแก้อะไร ปัญหาอยู่ตรงนี้ แล้วแต่ละพรรคก็คิดไม่ตรงกัน เพราะถ้าคิดตรงกันมันก็จะง่าย ใครจะเป็นเจ้าภาพก็ไม่แปลก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือแต่ละพรรคคิดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 279 มาตราไม่ตรงกัน ตนจึงบอกว่าเลือกเอามาตราที่จำเป็น และไม่ต้องทำประชามติก่อน อันนั้นจะง่าย
เมื่อถามว่า คิดว่ามาตราใดที่ควรดำเนินการแก้ก่อนแล้วจะไม่มีปัญหา นายวิษณุปฏิเสธจะตอบคำถามดังกล่าว โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่อยากจะไปตอบ” เมื่อถามว่า ใครควรเป็นเริ่มพูดคุยประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่า วิปรัฐบาลเขาทำอยู่ แต่ก็ต้องรอให้เขาเสนอมาก่อน
เมื่อถามถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่บางมาตราซึ่งเสียงข้างน้อยชนะเสียงข้างมาก จนต้องเลื่อนการพิจารณากฎหมายออกไป มีความกังวลว่าจะถูกคว่ำในวาระ 3 หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่ก่อน มีผู้ขอแปรญัตติ และมีผู้สงวนคำแปรญัตติเอาไว้ซึ่งตนเข้าใจว่าอาจมีความประมาทหรือเผลอไปหน่อย เพราะเมื่อถึงเวลาลงมติสมาชิกรัฐสภาไปอยู่ข้างนอกห้องประชุม แต่ก็ไม่เป็นไร นี่แหละคือความจำเป็นที่ต้องขอเวลานอก และต่อมาเมื่อแก้ไม่เสร็จก็ต้องขอเวลาพิเศษ แล้วพักการประชุมจนต้องเลื่อนออกไป
เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ว่ากฎหมายจะถูกตีตกไปในวาระ 3 นายวิษณุกล่าวว่า อย่าคิดล่วงหน้า เพราะตอนนี้เรื่องอยู่ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมาธิการที่ไปทำงานร่วมกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอยู่ที่มาตรา 10-13 และบทกำหนดโทษ ที่เรายังไม่เห็นกัน ดังนั้น การโหวตวาระ 3 จึงไม่ควรมีอะไรแต่ก็ยังพูดยาก เพราะยังมีประเด็นใหญ่ในมาตราหลังๆ อีก เช่น จำนวนเสียงประชาชนเท่าไหร่ถึงจะเป็นประชามติ รวมทั้งเสียงโหวตจะใช้เสียงข้างมากหรือเสียงขนาดไหนซึ่งเป็นมาตราสำคัญที่ยังไปไม่ถึง
เมื่อถามถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ระบุว่าถ้ากฎหมายประชามติถูกคว่ำในวาระ 3 รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ นายวิษณุกล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นของรัฐบาล เป็นกฎหมายปฏิรูป และกฎหมายสำคัญ ต้องเข้าใจคำว่าผ่าน-ไม่ผ่าน ไม่ได้มีเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่เป็นประเพณีการปกครองของในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ถ้ารัฐบาลเสนอกฎหมายแล้วไม่ผ่านวาระ 1 ตรงนั้นจะมีผลกระทบ เช่น ลาออกหรือยุบสภา เพราะแสดงว่าสภาไม่ไว้วางใจ แต่เมื่อกฎหมายประชามติผ่านวาระ 1 สภารับร่างไปแล้ว ต่อมามีการแก้ไข การแก้ไขจึงเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการในสภา ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ผลจะออกมาไม่เหมือนกันกับคำว่าไม่ผ่าน
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าเมื่อร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน รัฐบาลก็ควรต้องแสดงความรับผิดชอบ นายวิษณุย้อนถามว่า “คุณว่าใช่หรือไม่ ไม่เป็นไรเขาก็พูดทุกวันอยู่แล้ว เดี๋ยวคนนั้นพูดคนนี้พูด อย่างนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ยังบอกให้ยุบสภาเสียด้วยซ้ำ”