“บิ๊กป้อม” นำ ครม.อวยพรวันคล้ายวันเกิดนายกฯ อายุครบ 67 ปี โดน “บิ๊กตู่” แซวไม่ฉีดวัคซีนเดี๋ยวยึดโควตาให้คนอื่น เผยประชุม ครม.เมื่อวานถกเครียดหางบทำประชามติ ด้าน “3 ป.” ปิดห้องคุยรองนายกฯ-เลขาฯ สมช. หารือสถานการณ์หลังเกิดเหตุรุนแรงในพม่า
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.โหม ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้นำ ครม.พร้อมแจกันดอกไม้อวยพรวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม อายุครบ 67 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 21 มี.ค.นี้ โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวอวยพรว่า ขอให้นายกฯ มีความสุข และขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครองให้มีสุขภาพแข็งแรง จากนั้นจึงให้รัฐมนตรีแต่ละคนยืนเรียงแถวเพื่อมอบดอกกุหลาบให้นายกฯ ด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ด้านนายกฯ กล่าวขอบคุณที่ช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง อวยพรอะไรมาก็ขอให้คืนกลับไป
นอกจากนี้ หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 เสร็จเรียบร้อยแล้ว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร แข็งแรงดี ไม่มีผลข้างเคียงอะไร ฉีดแล้วอารมณ์ดี โดยพอถึงช่วงนี้ได้หันไปแซว พล.อ.ประวิตรว่า คนอายุ 70 ปีขึ้น ไม่สนใจฉีดวัคซีนเลย ถ้าไม่ฉีดจะยึดโควตาให้คนอื่นแทน โดยบรรดารัฐมนตรีต่างพากันหัวเราะอย่างครึกครื้น
จากนั้นเมื่อเข้าสู่วาระสภา นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) รายงานเรื่องการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ว่าจะมีในวัน 17-18 มี.ค. และกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงแจ้งว่าวันเดียวกันนี้มีการประชุมวิป 3 ฝ่าย โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย สอบถามสำนักงานกฤษฎีกามีความคิดเห็นอย่างไรหรือไม่ จะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งสำนักงานกฤษฎีกากล่าวว่าเป็นเรื่องของสภา ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ถึงอย่างไรตนก็ไม่สามารถสั่งอะไรใครได้ โดยเฉพาะ ส.ว.จะไปสั่งการเขาได้อย่างไร
นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยังได้สอบถามสำนักงบประมาณในเรื่องการทำประชามติว่าจะสามารถใช้งบประมาณในส่วนไหนได้ โดยสำนักงบประมาณกล่าวว่ามีงบประมาณกลางให้หากจะต้องใช้ ประเมินว่าจะใช้งบประมาณถึง 4 พันล้าน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า หากจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการทำประชามติก็ต้องหางบประมาณมาจนได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังประชุม ครม. และแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกรองนายกฯ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคง (สมช.) เข้าร่วมด้วย เข้าหารือที่ห้องรับรอง ตึกสันติไมตรีหลังนอก ประมาณ 20 นาที ในประเด็นเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยนายกฯ มีข้อห่วงใยสถานการณ์การเมืองในเมียนมาเพราะอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ขณะที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา ซึ่งนายกฯ กำชับว่าขอให้ดูแลพื้นที่ชายแดน และเศรษฐกิจ เนื่องจากห่วงว่าชาวเมียนมาจะหลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน และที่สำคัญเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ในเมียนมาขณะนี้