ผู้จัดการรายวัน 360 - “บิ๊กป้อม” ปัด “อนุชา-นฤมล” ซดเกาเหลา “แฮงค์” ลั่นไม่เป็นความจริง ภท.รอฟังผลกำราบ “ดาวฤกษ์” “อนุทิน” แบะท่าสลับ รมช. “บิ๊กตู่” เผย 3 พรรคส่งชื่อครบ แก้เกี้ยวฉีดแอลกอฮอล์ใส่นักข่าวหลังถูกถามชื่อ “ชัยวุฒิ” ด้าน “แกนนำ ปชป.” แห่เข้าพรรค จับตาเคาะชื่อ รมต. “สินิตย์-นริศ-ประกอบ” เบียด นายกฯเซ็นคำสั่งส่ง “บิ๊กโจ๊ก” พ้นกรุสำนักนายกฯ กลับถิ่น สตช. มีลุ้นเสียบผู้ช่วย ผบ.ตร.
วานนี้ (9 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ที่เคยระบุว่า ส่งรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคพลังประชารัฐให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พิจารณาแล้วว่า “ผมจำไม่ได้”เมื่อถามย้ำว่า ที่บอกว่า จำไม่ได้ แสดงว่าส่งไปแล้วใช่หรือไม่ จึงไม่ปฏิเสธ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า “จำไม่ได้”
ปัด “อนุชา-นฤมล” ซดเกาเหลา
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ปฏิเสธกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่าง นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค กับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ในฐานะเหรัญญิกพรรค ที่มีปากเสียงกันในห้องรับรองภายในอาคารรัฐสภาต่อหน้า พล.อ.ประวิตรว่า ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีใครทะเลาะอะไรกัน
เช่นเดียวกับ นายอนุชา ที่ปฏิเสธกระแสข่าวว่า ไม่จริง ขณะที่ นางนฤมล ปฏิเสธตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเรื่องดังกล่าว
“ศักดิ์สยาม”ยังติดใจ“ดาวฤกษ์”
จากนั้นผู้สื่อข่าวถาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของพรรคพลังประชารัฐ ได้ข้อสรุปเตรียมเสนอต่อกรรมการบริหารพรรค โดยให้ ส.ส.ทั้ง 7 คน แสดงสปิริตไม่รับตำแหน่งอื่น หาก ส.ส.กลุ่มดังกล่าวมาขอโทษจะโอเคหรือไม่ นายศักดิ์สยาม หัวเราะเบาๆในลำคอ พร้อมกล่าวว่า ตนคิดว่า เป็นเรื่องพรรคพลังประชารัฐพิจารณา และยังไม่มีการแจ้งมาที่พรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามย้ำว่า หากมีผลออกมาให้ ส.ส.ดาวกฤษ์มาขอโทษด้วย เพื่อให้สถานการณ์พรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อย จะโอเคหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า รอดูว่าพรรคพลังประชารัฐจะแจ้งมาอย่างไร
“อนุทิน” รับอยากสลับ รมช.
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการยื่นรายชื่อปรับ ครม. ให้แก่พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ยังไม่ได้ส่ง โดยมีความสนใจที่จะสลับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ยืนยันว่าการทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข เข้าขากันดีกับ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข
นายกฯยังไม่เห็นชื่อ พปชร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงผลการประชุม ครม. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดเผยความคืบหน้าการปรับ ครม. ว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐ ส่งชื่อมาแล้วอยู่ที่ตน แต่ยังไม่ได้ดู ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการที่เตรียมการไว้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้ส่ง
“สินิตย์-นริศ” เบียดโควตา ปชป.
วันเดียวกัน รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความคืบหน้าการเสนอชื่อบุคคล เป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ หลังเสร็จการประชุม ครม.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำ เดินทางเข้าไปยังที่ทำการพรรค เพื่อหารือถึงการปรับ ครม.และเตรียมการนัดหมายการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ตามข้อบังคับของพรรค สำหรับรายชื่อ จะให้น้ำหนักกับผู้ที่เป็น ส.ส.ในปัจจุบัน และไม่เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีมาก่อน อาทิ 1. นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี, 2. นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง, 3. นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ 4. นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา ซึ่งทั้งหมดเป็น ส.ส. 5 สมัย
รับเซ็นส่ง “บิ๊กโจ๊ก” กลับ สตช.
อีกกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่ง ให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมนตรี (นักบริหารระดับสูง) อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กลับเข้ารับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยทันที ที่ถูกถาม นายกฯได้เอาแอลกอฮอล์มาฉีดใส่ผู้สื่อข่าว และบอกว่าไม่ใช่เรื่องการลงนาม เป็นเรื่องของกฏหมายและเป็นเรื่องของ สตช.ที่จะเสนอชื่อมายังนายกฯ เมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่ได้ข้อยุติ ก็ส่งกลับไปสอบต่อ
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวเสริมว่า คำสั่งของนายกฯ คือ ให้พิจารณาทุกคนที่ค้าง ถูกย้ายมาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯประมาณ 60 คน ถ้าเคลียร์ได้ก็ให้พยายามเคลียร์ออกไป
“โจ๊ก”ลุ้นเสียบผู้ช่วย ผบ.ตร.
รายงานข่าวจาก สตช.แจ้งว่า ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช.มีวาระเพื่อเปิดตำแหน่ง 8 ตำแหน่ง ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ยศ พล.ต.ต. 4 ตำแหน่ง และผู้บัญชาการ (ผบช.) ยศ พล.ต.ท. 4 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ในตำแหน่งระดับ ผบช.เป็นไปได้ว่า จะเป็นการรองรับการกลับมายัง สตช. ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ด้วยโดยตามกฎ ก.ตร. การโอนย้ายกลับมาของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่ปัจุบันอยู่ในตำแหน่งระดับ นักบริหารระดับสูง สามารถโอนย้ายกลับมาในตำแหน่งเทียบชั้นยศ พล.ต.ท. ได้ทั้งตำแหน่งระดับเดิม ผบช. เท่าตอนถูกย้ายไป หรือขยับสูงขึ้น เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ซึ่งอำนาจในการพิจารณารับโอน เป็นของ ก.ตร.
วานนี้ (9 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ที่เคยระบุว่า ส่งรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคพลังประชารัฐให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พิจารณาแล้วว่า “ผมจำไม่ได้”เมื่อถามย้ำว่า ที่บอกว่า จำไม่ได้ แสดงว่าส่งไปแล้วใช่หรือไม่ จึงไม่ปฏิเสธ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า “จำไม่ได้”
ปัด “อนุชา-นฤมล” ซดเกาเหลา
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ปฏิเสธกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่าง นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค กับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ในฐานะเหรัญญิกพรรค ที่มีปากเสียงกันในห้องรับรองภายในอาคารรัฐสภาต่อหน้า พล.อ.ประวิตรว่า ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีใครทะเลาะอะไรกัน
เช่นเดียวกับ นายอนุชา ที่ปฏิเสธกระแสข่าวว่า ไม่จริง ขณะที่ นางนฤมล ปฏิเสธตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเรื่องดังกล่าว
“ศักดิ์สยาม”ยังติดใจ“ดาวฤกษ์”
จากนั้นผู้สื่อข่าวถาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของพรรคพลังประชารัฐ ได้ข้อสรุปเตรียมเสนอต่อกรรมการบริหารพรรค โดยให้ ส.ส.ทั้ง 7 คน แสดงสปิริตไม่รับตำแหน่งอื่น หาก ส.ส.กลุ่มดังกล่าวมาขอโทษจะโอเคหรือไม่ นายศักดิ์สยาม หัวเราะเบาๆในลำคอ พร้อมกล่าวว่า ตนคิดว่า เป็นเรื่องพรรคพลังประชารัฐพิจารณา และยังไม่มีการแจ้งมาที่พรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามย้ำว่า หากมีผลออกมาให้ ส.ส.ดาวกฤษ์มาขอโทษด้วย เพื่อให้สถานการณ์พรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อย จะโอเคหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า รอดูว่าพรรคพลังประชารัฐจะแจ้งมาอย่างไร
“อนุทิน” รับอยากสลับ รมช.
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการยื่นรายชื่อปรับ ครม. ให้แก่พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ยังไม่ได้ส่ง โดยมีความสนใจที่จะสลับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ยืนยันว่าการทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข เข้าขากันดีกับ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข
นายกฯยังไม่เห็นชื่อ พปชร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงผลการประชุม ครม. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดเผยความคืบหน้าการปรับ ครม. ว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐ ส่งชื่อมาแล้วอยู่ที่ตน แต่ยังไม่ได้ดู ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการที่เตรียมการไว้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้ส่ง
“สินิตย์-นริศ” เบียดโควตา ปชป.
วันเดียวกัน รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความคืบหน้าการเสนอชื่อบุคคล เป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ หลังเสร็จการประชุม ครม.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำ เดินทางเข้าไปยังที่ทำการพรรค เพื่อหารือถึงการปรับ ครม.และเตรียมการนัดหมายการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ตามข้อบังคับของพรรค สำหรับรายชื่อ จะให้น้ำหนักกับผู้ที่เป็น ส.ส.ในปัจจุบัน และไม่เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีมาก่อน อาทิ 1. นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี, 2. นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง, 3. นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ 4. นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา ซึ่งทั้งหมดเป็น ส.ส. 5 สมัย
รับเซ็นส่ง “บิ๊กโจ๊ก” กลับ สตช.
อีกกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่ง ให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมนตรี (นักบริหารระดับสูง) อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) กลับเข้ารับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยทันที ที่ถูกถาม นายกฯได้เอาแอลกอฮอล์มาฉีดใส่ผู้สื่อข่าว และบอกว่าไม่ใช่เรื่องการลงนาม เป็นเรื่องของกฏหมายและเป็นเรื่องของ สตช.ที่จะเสนอชื่อมายังนายกฯ เมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่ได้ข้อยุติ ก็ส่งกลับไปสอบต่อ
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวเสริมว่า คำสั่งของนายกฯ คือ ให้พิจารณาทุกคนที่ค้าง ถูกย้ายมาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯประมาณ 60 คน ถ้าเคลียร์ได้ก็ให้พยายามเคลียร์ออกไป
“โจ๊ก”ลุ้นเสียบผู้ช่วย ผบ.ตร.
รายงานข่าวจาก สตช.แจ้งว่า ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช.มีวาระเพื่อเปิดตำแหน่ง 8 ตำแหน่ง ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ยศ พล.ต.ต. 4 ตำแหน่ง และผู้บัญชาการ (ผบช.) ยศ พล.ต.ท. 4 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ในตำแหน่งระดับ ผบช.เป็นไปได้ว่า จะเป็นการรองรับการกลับมายัง สตช. ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ด้วยโดยตามกฎ ก.ตร. การโอนย้ายกลับมาของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่ปัจุบันอยู่ในตำแหน่งระดับ นักบริหารระดับสูง สามารถโอนย้ายกลับมาในตำแหน่งเทียบชั้นยศ พล.ต.ท. ได้ทั้งตำแหน่งระดับเดิม ผบช. เท่าตอนถูกย้ายไป หรือขยับสูงขึ้น เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ซึ่งอำนาจในการพิจารณารับโอน เป็นของ ก.ตร.