อดีต ส.ส.ปชป. แฉรัฐสภาเตรียมถกงดค่าปรับ ซิโน-ไทย ก่อสร้างล่าช้า ทั้งที่เอกชนฟ้องกลับ จี้สอบ ซิโน-ไทย ตั้งสนง.ย่อยตีเนียน ใช้น้ำ-ไฟของหลวงฟรี พร้อมลงไปดูด้วยตัวเอง
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่สารบรรณถึงนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการปรับบริษัท ซิโน-ไทย จำกัด (มหาชน) ตามกฎหมาย วันละ 12 ล้านบาทเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 64 เพราะไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ให้แล้วเสร็จตามสัญญา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ ซึ่งในวันนี้ นางพรพิศ ได้สั่งการให้คณะกรรมการตรวจการจ้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่มีนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบการจ้างฯ พิจารณางด หรือปรับลดค่าปรับให้บริษัท ซิโน-ไทย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ฟ้องร้องสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรียกค่าเสียหายกรณีก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เป็นเงินเกือบ 1.6 พันล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แล้วยังได้สงวนสิทธิที่จะฟ้องศาลปกครองกลางเพิ่มเติมอีกตามหนังสือของบริษัทที่เคยแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างฯแล้ว ซึ่งยังปรากฏว่า มิใช่เกิดจากความผิดของผู้ว่าจ้างแต่ประการใด
“จะต้องคัดค้านเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการและประชาชนผู้เสียภาษี หากคณะกรรมการตรวจการจ้าง หรือข้าราชการหรือเอกชนบุคคลใดกระทำที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชนแม้แต่น้อย จะขอใช้สิทธิประชาชนยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนสอบสวนต่อไป” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือถึงนายสาธิต ขอให้ตรวจสอบการใช้ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ ของบริษัทเอกชนที่ตั้งสำนักงานชั่วคราวอยู่ใต้อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ด้วย เพราะปรากฏข้อเท็จจริงว่าขณะนี้ที่ชั้นใต้ดิน B1 เสาอาคารรัฐสภาหมายเลข 7 และ 11 เมื่อขึ้นบันไดไปจะพบว่ามีบริษัทเอกชนมาตั้งสำนักงานย่อยทั้งสองด้านของใต้ถุนอาคารรัฐสภาใหม่แห่งนี้ จึงขอให้มีการตรวจสอบว่าบริษัทเอกชนดังกล่าวใช้กระแสไฟฟ้า-น้ำประปา-โทรศัพท์ จากหน่วยงานใด และได้ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง มาตรวัดน้ำของการประปานครหลวง และชำระค่าโทรศัพท์ตามกฎหมายหรือไม่ ขออนุญาตตั้งแต่เมื่อใด และผู้ใดเป็นผู้อนุญาตให้มีการตั้งสำนักงานย่อยของบริษัทเอกชนภายในอาคารรัฐสภาดังกล่าว และตั้งสำนักงานย่อยมาตั้งแต่วันที่เท่าไร มีข้อตกลงอย่างไรหรือไม่ หากยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จะยื่น ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไปเช่นกัน ทั้งนี้ ขอให้เวลา 15 วัน เพื่อขอทราบคำตอบในรายละเอียดและผลการดำเนินการต่างๆ ทั้งหมดด้วย
“เวลาชาวบ้านทั่วไปไม่ได้จ่ายค่าน้ำค่าไฟแค่เดือนเดียวยังถูกตัดมิเตอร์ แต่นี่กลับได้ใช้น้ำไฟของหลวงฟรี ไม่ต้องเสียสักบาท อย่างนี้ถือว่าขโมยทรัพย์สินของหลวงหรือไม่ หรือหากสภาอนุญาตให้เขาใช้ก็ต้องมีหลักฐานการอนุญาต และรับผิดชอบที่เอาเงินหลวงไปเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน ถือว่าเข้าข่ายเว้นการปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน”
ภายหลังแถลงข่าว นายวัชระ เดินเข้าไปตรวจสอบในสำนักงานย่อยของบริษัทเอกชนดังกล่าว พบว่าติดตั้งระบบแอร์คอนดิชันพร้อมคอมพิวเตอร์จำนวนมาก มีห้องสุขาบริการด้วย