“นิพิฏฐ์” มองแก้ รธน.จบแล้วไม่ทัน รบ.นี้ เตือนม็อบฝืนไปตายประชดป่า วิ่งชนกำแพง

รอง หน.ปชป. เชื่อปิดประตูตายแก้ รธน.ในรัฐบาล “ประยุทธ์” ต้องยอมรับความจริงแก้ตัดอำนาจ ส.ว.ยาก เตือน ม็อบอย่าฝืนตายประชดป่าช้า-วิ่งชนกำเเพง แนะเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้คุยกัน ชี้จุดอ่อนม็อบไม่รู้จริงรู้ลึก

วันนี้ (21 มี.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ ว่า ต้องยอมรับความจริงว่า ประเด็นนี้แก้ยาก เพราะ ส.ว.คงไม่ยอมยกมือผ่านให้แน่ๆ การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในรัฐสภาจนถูกคว่ำที่ผ่านมา ก็เพื่อหวังให้มี ส.ส.ร.มาแก้โดยไม่ต้องผ่านความขัดแย้งในรัฐสภา ในความคิดตนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมันจบแล้ว ในแง่ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ ยิ่งแก้รายมาตราในรัฐสภา ยิ่งจะแก้ยากยิ่งกว่าแก้โดย ส.ส.ร.เสียอีก นี่คือ ความจริงในทางการเมือง ที่นอกจาก ส.ส.รัฐบาลแล้ว ส.ว.84 คน จะต้องอยากแก้และโอเคด้วย แต่เวลามีไม่พอแล้วในเงื่อนเวลาที่เหลืออยู่ 2 ปีของรัฐบาลนี้ ความขัดเเย้งเรื่องรัฐธรรมนูญจึงจะไม่จบ จากเงื่อนเวลาที่มีหลายขยัก 1. ต้องทำประชามติก่อน 2. ต้องทำประชามติหลัง 3. ต้องมีแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ต้องใช้เวลามากอีก คิดว่าเวลาไม่น่าจะพอในรัฐบาลนี้ นี่คือ ความจริงที่ชาวบ้านเขารู้ดี ถ้าคุณดูไทม์ไลน์ดีๆ มันไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ว่าหากทำให้รัฐสภาเป็นเอกภาพได้ก็น่าจะพอทันแต่มันยากมาก

นายนิพิฏฐ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ปะทะกันรุนเเรงเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ว่า ผู้ชุมนุมมีจุดอ่อนอยู่เรื่องหนึ่ง คือ เขาเพียงแต่สะท้อนความต้องการอยากได้ แต่ไม่ได้รู้จริงและรู้ลึก เช่น เรื่องรัฐธรรมนูญ มีความต้องการเรียกร้อง แต่ไม่เข้าใจกระบวนการ เขาบอกต้องแก้รัฐธรรมนูญ นายกฯต้องลาออก ต้องปฏิรูปสถาบัน แต่พอไปเจาะลึกถามเขาจริงๆ เขาก็ตอบไม่ถูก เพราะเขาต้องการเป็นกัปตันเรือ ที่ขับเรือไม่เป็น ม็อบขณะนี้คงไม่เป็นม็อบใหญ่แล้ว แต่จะมีความรุนแรงมากขึ้น เป็นการชุมนุมเพื่อเอาแพ้ชนะกันมากกว่า เช่น ปล่อยพวกเรา แล้วไปกดดันศาล เขวี้ยงขวดน้ำในศาล มันอันตรายและจะถูกน็อกหมด ตอนนี้ทางออกแทบไม่มี มีอยู่ทางเดียวคือ เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้คนเหล่านี้พูดคุยกัน เพราะออกมาพูดในพื้นที่สาธารณะพวกนี้ติดคุกหมด นี่คือความจริง ที่ผู้ชุมนุมต้องยอมรับว่าทำไม่ได้ ต่อให้คุณฝืนไปก็ตายประชดป่าช้า วิ่งชนกำแพง