รองหัวหน้า ปชป.อัด ส.ว.ตีขลุมอ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดันตีตกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 3 แทนที่จะถาม ปชช.ก่อน ระบุอำนาจอยู่ในมือแล้วปล่อยยาก ยกคำนักปรัชญาการปกครองระบอบ ปชต.มีแต่ในสวรรค์
วันนี้ (13 มี.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “การแปลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เหลือเชื่อ”
“- การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สรุปว่า รัฐสภาสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนด้วยการลงประชามติเสียก่อน ก็หมายความชัดว่า ในวันที่ 17 มี.ค. 2564 รัฐสภาสามารถลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ได้ เสร็จแล้วก็นำไปลงประชามติ ไม่เห็นต้องแปลความเป็นอย่างอื่น นักศึกษากฎหมายปี 1 เทอม 2 ก็แปลได้อย่างนี้ คณบดีคณะนิติศาสตร์ก็แปลได้อย่างนี้ แต่มีสมาชิกรัฐสภาและนักกฎหมายบางท่านแปลว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาทำไปแล้วนั้นเป็นโมฆะ เพราะทำไปก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็หมายความว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่รอการลงมติในวาระ 3 ต้องถูกคว่ำอย่างเดียว
- ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าท่านตีความไปอย่างนั้นเพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญตกไป ทำไมไม่นำไปถามประชาชนผู้ “สถาปนา” รัฐธรรมนูญเสียก่อน ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญล่ะครับ ถามประชาชนแล้วทำตามคำวินิจฉัยของศาลก็จบ ความขัดแย้งก็ไม่เกิด ท่านที่กลัวการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อย่ากลัวไปเลยครับว่า ถ้าถามประชาชนแล้วจะแก้ได้ เพราะต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าประชาชนของเราอ่านรัฐธรรมนูญน้อย ประชาชนของเราส่วนหนึ่ง (ซึ่งก็มีมากเสียด้วยสิ) ท่องอยู่อย่างเดียวว่า
1. รัฐธรรมนูญนี้เป็นฉบับปราบโกง (ทั้งที่อัตราการโกงเพิ่มขึ้นทุกวัน) แล้วจะไปแก้ทำไม
2. แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่แก้ประชาชนก็ยังยากจนอยู่อย่างเดิม จะไปยุ่งกับรัฐธรรมนูญทำไม
- เมื่อประชาชน(บางส่วน) ยังคิดอยู่อย่างนี้การแก้ไขมันก็ไม่ง่ายหรอก
- ผมเพียงสรุปว่า อันอำนาจนั้นมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ลองอยู่ในมือใครแล้ว ยากที่จะปล่อยออกมา บางคนถึงกับยอมตายไปพร้อมกับอำนาจนั้นแหละ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของนักปรัชญาท่านหนึ่งที่ว่า “ประชาธิปไตยนั้น เป็นรูปแบบการปกครองที่อยู่ในสวรรค์ ที่มีเทวดาเป็นพลเมือง การปกครองแบบนี้ไม่มีวันตกลงมาอยู่ในโลกมนุษย์” คิดได้อย่างนี้ก็ปลงได้