ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จวก “เพนกวิน” ไร้ราคา อดข้าวประท้วงให้ตายไป อัดอย่าเรียกร้องทำตัวเหนือนักโทษคนอื่น เชื่อทำตัวก้าวร้าวเป็นแนวทางต่อสู้คดีว่าตนเองวิกลจริต
วันนี้ (16 มี.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อ่านจดหมายวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายอาญา มาตรา 112 ในระหว่างเดินทางไปรับฟังคำสั่งศาลวานนี้ (15 มี.ค.) ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นแค่กฎหมายอาญาทั่วไป เช่น คดีลักทรัพย์ ก็มีโทษระบุไว้กฎหมายห้ามทำ กฎหมายบางอย่างที่ล้าสมัย ไม่ทันกับเหตุการณ์เหตุการณ์ปัจจุบันมีเยอะแยะ แต่มาตรา 112 ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้โคตรเหง้าเพนกวิน วงศ์ตระตระกูลของใครเดือดร้อน ยกเว้นตัวเองอยากจะละเมิด หรืออยากจะเอาคำที่ว่าเห็นฝรั่งทำ ซึ่งคนที่ปลุกปั่นเพนกวินส่วนมากก็จะมีเมียฝรั่ง พ่อเป็นฝรั่ง เอาวัฒนธรรมฝรั่งมาแล้วก็บอกว่าประเทศเหล่านั้นไม่มี แต่ประเทศไทยมี หากเห็นว่าประเทศเหล่านี้ดี พวกลูกครึ่ง พวกมีเมียฝรั่งก็กลับไป อย่าอยู่ประเทศไทย ประเทศนี้ต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ และก็มีกฎหมายปกป้องสถาบันฯ
ส่วนที่นายพริษฐ์ประกาศจะอดข้าวประท้วงจนกว่าจะได้รับการประกันตัวนั้น นายสิระย้อนถามว่า เพนกวินเป็นใคร ผู้ต้องขังในเรือนจำมีหลายแสนคน ไม่เห็นเรียกร้องอะไร และตอนนี้ศาลก็มีหมายขังเพนกวิน ถ้าเพนกวินไม่กินข้าว หรือจะกินข้าวเยอะก็เป็นเรื่องของเพนกวิน เพราะไม่ใช่บุคคลสำคัญ อย่าไปใส่ใจ ให้อดข้าวแล้วตายไปเลยสักคน ประเทศก็อยู่ได้ เรือนจำก็ได้ลดค่าใช้จ่ายไปอีก 1 คน ปัญหาเยอะก็ตามสบายเลย เอาที่สบายใจ
“เพนกวินอดข้าว ก็จะได้แบ่งข้าวให้ผู้ต้องขังคนอื่น ก็ให้อดไปเลย อย่าทำตัวตะโกนเรียกร้องอะไรเหนือกว่าผู้ต้องขังคนอื่น ดูแล้วมันไร้ราคา”
นายสิระยังเห็นว่า พฤติกรรมที่นายเพนกวินกระทำต่อหน้าศาลวานนี้ เกินกว่าเยียวยา อยากถามไปถึงสถาบันที่เพนกวินเรียนได้อบรมได้สอนอย่างถูกทางหรือไม่ และเพนกวินคิดว่าอาจารย์ที่สอนถูกทุกเรื่อง เชื่อทุกเรื่อง แต่อาจารย์ออกมาทำผิดกฎหมายบ้างไหม ถ้าแน่จริงนะ อาจารย์เดินนำหน้าเลย อย่าเป็นอีแอบ อย่าสอนลูกหลานของชาวบ้านผิดๆ จบมาก็เอากฎหมายไปใช้ผิดๆ อีก ตอนนี้ก็ได้ยินว่ามีคนไปยื่นหนังสือให้มหาวิทยาลัยตรวจสอบอาจารย์ผู้สอนเรื่องการสอน ผิดกฎหมายและจริยธรรมหรือไม่
“ที่เพนกวินชูสามนิ้วและโวยวายในห้องพิจารณาคดี ผมมองว่าอาจเป็นแนวทางการต่อสู้คดีในชั้นศาลก็ได้ว่าตนเองไม่ปกติ วิกลจริต เป็นบ้าเพื่อให้ได้รับข้อยกเว้น เพราะถ้าคนปกติเขาไม่ทำกัน”
ส่วนที่นายพริษฐ์ตะโกนว่าคุกขังความจริงไม่ได้นั้น ตนมองว่าความจริงมีอยู่อย่างเดียวในแต่ละเรื่อง แต่ที่ขังได้คือขังคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย คนที่อยู่ร่วมกับคนปกติไม่ได้ เค้าถึงเอาไปขัง ไม่ให้ไปกระทบต่อบุคคลภายนอกที่สุจริต ที่ปกติคนเหล่านี้ที่เข้าไป เขาก็ไม่ให้มาละเมิดประชนชนทั่วไปเท่านั้นเอง เขาเป็นเพียงผู้ต้องขังตามหมายขังคนหนึ่ง อย่าแสดงอะไรที่เกินกว่าคนธรรมดา เพนกวินเป็นเศษสวะคนหนึ่งเท่านั้น ที่ตนพูดถ้าจะฟ้องก็ฟ้องเลย ซึ่งตนยังเห็นว่าสิ่งที่เพนกวินทำเป็นแนวทางการต่อสู้คดีหรือไม่ว่าตัวเองวิกลจริต
เมื่อถามต่อว่าปรากฏภาพภาพนักศึกษา มช. และทราย เจริญปุระ ไปร่วมกันทำวัตถุที่คล้ายธงชาติ ไม่มีสีน้ำเงินและเขียนข้อความหมิ่นสถาบันฯ ลงไปด้วย นายสิระกล่าวว่า คนเหล่านี้ไม่รู้เอาอะไรใส่ในสมอง พ่อแม่เคยสั่งสอนหรือไม่ว่าสถาบันฯ ปกป้องประเทศมาอย่างไร ให้พ้นวิกฤต และเวลาวิกฤตเช่นพฤษภาทมิฬ 35 สถาบันฯ ก็ทำให้บ้านเมืองสงบ เวลาเกิดสงคราม สถาบันฯ ก็พาประเทศรอดพ้นจากการเป็นอาณานิคมประเทศอื่น