xs
xsm
sm
md
lg

ภาค กทม.พปชร.ก่อหวอดทวงโควตา รมต. หวั่นไร้เสนาบดีดูแลกระทบฐานเสียง-สนามผู้ว่าฯ กทม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
“ภาค กทม.พปชร.” จ่อทวงโควตา รมต. หวังผู้ใหญ่ทบทวน หวั่นไร้ รมต.ดูแลกระทบสนาม “ผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.” ยก 8 แสนแต้ม-12 ส.ส.ควรมีโควตา เทียบจังหวัดอื่น “สุโขทัย-พะเยา-สิงห์บุรี” ฐานเสียงน้อยกว่าอื้อแต่กลับได้ รมต. ยุปรับออกเสนาบดีไร้ผลงาน เตือนอาจหลุดแชมป์ กทม. เปิดโอกาสคู่แข่งฮุบเมืองหลวง กระตุกอย่าลืมทฤษฎีคนกรุงล้มรัฐบาล

จากรณีความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ที่ล่าสุดมีการเเสนอชื่อ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พิจารณาเสนอแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งที่ว่างลง โดยคาดว่า น.ส.ตรีนุชจะได้เป็น รมว.ศึกษาธิการ และนายชัยวุฒิจะได้เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นั้น

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแจ้งว่า หลังจากที่เริ่มมีความชัดเจนในส่วนของตัวบุคคลที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เกิดวิพากษ์วิจารณ์ภายในพรรคว่าการเสนอแต่งตั้ง น.ส.ตรีนุช และนายชัยวุฒิ โดยไม่ขยับตำแหน่งอื่นๆ นั้น ไม่ตอบโจทย์การเกลี่ยโควตาภาคที่อ้างอิงจำนวน ส.ส.ของแต่ละกลุ่มตามที่เคยหารือในการประชุมพรรคที่มี พล.อ.ประวิตรเป็นประธาน เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของ ส.ส.ภาคใต้ ที่รอบนี้ก็ยังไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี รวมไปถึงภาค กทม. ที่เมื่อนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หลุดจากตำแหน่งไปทำให้ไม่เหลือรัฐมนตรีที่เป็นสายตรงของภาค กทม.แม้แต่คนเดียว

แหล่งข่าวที่ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ รายหนึ่งกล่าวว่า มีการพูดคุยกันในกลุ่ม ส.ส.ว่า ในการประชุมพรรควันที่ 16 มี.ค.นี้จะเสนอให้ พล.อ.ประวิตรทบทวนการพิจารณาเสนอชื่อบุคคลเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเสียโอกาสการทำพื้นที่ใน กทม.ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และอีกไม่นานก็ต้องเลือกตั้งใหญ่อีกต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.กทม.มากที่สุด คือ 12 ที่นั่ง และคะแนนส.ส.เขตของ กทม.ของพรรค รวมทุกเขตได้มาถึงกว่า 8 แสนคะแนน แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากกระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ แต่อย่าลืมว่าส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดกระแสนี้ได้ คือ การจัดตั้งกระแสโดยการทำงานอย่างหนักของทีม ส.ก.-ส.ข. และเจ้าของพื้นที่ซึ่งเป็น ส.ส.จากกลุ่ม กทม.ที่มาอยู่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ กลับกันบางจังหวัดที่มีรัฐมนตรีไม่สอดคล้องกับฐานคะแนนเสียงของพรรค อาทิ จ.ชลบุรี คะแนนรวมของพรรค 3 แสนคะแนน มี ส.ส.5 คน แต่มีรัฐมนตรี 2 คน, จ.พะเยา ฐานคะแนน 1.2 แสนคะแนน ส.ส.2 คน มีรัฐมนตรี 1 คน, จ.สุโขทัย ฐานคะแนน 1.1 แสนคะแนน ส.ส.2 คน มีรัฐมนตรี 1 คน หรือ จ.สิงห์บุรี ฐานคะแนน 4.8 หมื่นคะแนน ส.ส.1 คน กำลังจะมีรัฐมนตรี 1 คน เป็นต้น

“เราไม่ติดใจเรื่องตัวบุคคล ทั้ง น.ส.ตรีนุช และนายชัยวุฒิ ที่มีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับ แต่อยากให้ผู้ใหญ่คำนึงถึงการทำพื้นที่ที่ควรมีรัฐมนตรีดูแลรับผิดชอบ โดยเฉพาะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ที่จะเลือกในปีนี้ และอีกไม่เกิน 2 ปีก็จะมีการเลือกตั้งใหญ่ หากเป็นเช่นนี้เราอาจเสียแชมป์ ส.ส.กทม.ก็เป็นได้ ไม่เพียงแต่แต่งตั้งตำแหน่งที่ว่างเท่านั้น นายกฯ ควรใช้โอกาสนี้พิจารณารัฐมนตรีอีกหลายคนที่ไม่มีผลงานก็ควรพิจารณาปรับออกจาก ครม.ด้วย” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ถ้าการปรับ ครม.เป็นไปตามกระแสข่าว โดยไม่มีรัฐมนตรีจากสัดส่วน กทม.ย่อมเกิดผลกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลและของพรรคใน กทม.อย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในเร็วๆ นี้ ในกลุ่ม กทม.มีความเป็นห่วงว่าพรรคพลังประชารัฐจะสูญเสียคะแนนจัดตั้งเดิมที่เคยช่วยพรรคในการเลือกตั้งใหญ่ แล้วอาจตีกลับไปให้คู่แข่งที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายของพรรค ทั้งพรรคก้าวไกลที่เจาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่, กลุ่มของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่กำลังจะตั้งพรรคใหม่ และกลุ่มการเมืองที่เข้มแข็งใน กทม. หรือแม้กระทั่งตัวเต็งสนามผู้ว่าฯ กทม.อย่างนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ทั้งหมดนี้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ไม่มีวันสังฆกรรมกับพรรคพลังประชารัฐมาโดยตลอด หรือกระทั่งพรรคประชาธิปัตย์เองก็กำลังรอโอกาสทวงพื้นที่ กทม.คืน

“ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า กทม.เป็นเมืองหลวงของประเทศ ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะเป็นเสียงสะท้อนในการตัดสินอนาคตของรัฐบาล และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงต่อการเมืองในระดับชาติอยู่เสมอ เหมือนทฤษฎีที่ว่าคนชนบทเลือกรัฐบาล คน กทม.ล้มรัฐบาล” แหล่งข่าวระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น