“ครม.ตู่ 2/4” เริ่มชัด “ชัยวุฒิ” จองดีอีเอส “เมียประยุทธ์” ส่ง “ตรีนุช” ฟาดเก้าอี้ใหญ่ “เสมา 1” เผยปรับเล็กสะกดแรงกระเพื่อม “ภท.-ปชป.” ผิดดีลสลับ รมช.พาณิชย์-คมนาคม “บุญลือ” โผล่เบียด “วีรศักดิ์” หลุด
วานนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/4 ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ภายหลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่ง 2 รายชื่อโควตาของพรรคให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นที่เรียบร้อย ได้แก่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรค และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว โดยการปรับ ครม.ครั้งนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะเป็นการปรับเล็ก ไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม โดยทั้ง 2 รายจะเข้าไปเสียบในตำแหน่งที่ว่างอยู่เท่านั้น
โดย นายชัยวุฒิ ได้รับแรงสนับสนุนจาก พล.อ.ประวิตร และเคยรับปากว่าจะให้ตำแหน่งรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้น หรือเป็น Waiting List อันดับ 1 รวมไปถึงการทำงานในสภาฯที่เข้าตา พล.อ.ประวิตร มาตลอด อีกทั้งยังได้รับการผลักดันจากนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ที่ทำงานร่วมกันด้วย จะได้รับการเสนอชื่อเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
ส่วน น.ส.ตรีนุช จะประเดิมการเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกด้วยตำแหน่งใหญ่ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับ ส.ส.ในพรรคที่ก่อนหน้านี้พยายามออกมาดิสเครดิต น.ส.ตรีนุชไม่น้อย ทั้งนี้เนื่องจากตระกูลเทียนทองมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างพี่น้อง 3 ป. ทั้ง พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตั้งแต่ครั้งยังรับราชการทหารที่ จ.ปราจีนบุรี ก่อนแยกออกมาเป็น จ.สระแก้ว รวมทั้งที่ผ่านมา น.ส.ตรีนุช ที่มีดีกรีเป็น ส.ส.ถึง 5 สมัย และย้ายมาร่วมพรรคพลังประชารัฐแบบเซอร์ไพร์ส จนมีข่าวว่าแตกหักนายเสนาะ เทียนทอง ที่มีศักดิ์เป็นลุง สร้างความประทับใจให้ พล.อ.ประวิตร เป็นอย่างมาก แต่กลับไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานกรรมาธิการของสภาฯ ที่สำคัญ น.ส.ตรีนุช และครอบครัว ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ ที่ให้ความสนใจและสนับสนุนงานด้านการศึกษามาโดยตลอดตั้งแต่สมัยรัฐบาล คสช. ทำให้ น.ส.ตรีนุช ได้รับตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ แบบไร้คู่แข่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการปรับ ครม.ครั้งนี้เป็นการโชว์ภาวะผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องปรามกลุ่มการเมืองในพรรคพลังประชารัฐที่เคลื่อนไหวอย่างหนักหลังทราบว่าจะมีการปรับ ครม. โดยนายกฯมองว่าหลายกลุ่มล้ำเส้น และเล่นเกมการเมืองมากเกินไป หากให้ตำแหน่งใหญ่โตขึ้นจะกลายเป็นวัฒนธรรมการเมืองของพรรคที่ไม่ดี และนายกฯเองก็เหมือนเป็นหัวหลักหัวตอ ทุกคนคอยวิ่งเข้าหา พล.อ.ประวิตร โดยไม่สนใจทำผลงานในฐานะรัฐมนตรี นายกฯจึงตัดสินใจปรับ ครม.โดยไม่คำนึงถึงเกมการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ และให้ รัฐมนตรีหน้าใหม่ได้ตำแหน่งใหญ่ เพื่อแสดงความเด็ดขาด ไม่หวั่นไหวต่อการวิ่งเต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าได้ตกลงจะสลับเก้าอี้กัน ระหว่างเก้าอี้รมช.พาณิชย์โควตาพรรคภูมิใจไทย กับ รมช.คมนาคม โควตาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเก้าอี้เดิมของ นายถาวร เสนเนียม โดยในพรรคภูมิใจไทยมีกระแสข่าวว่า นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี และอดีต รมช.ศึกษาธิการ จะมาเป็น รมช.คมนาคม เบียด นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ หลุดจาก ครม.
ทางด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังปฏิเสธกระแสข่าวการแลกเปลี่ยนโควตากับพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างว่า ยังไม่มีการคุยกันเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามโควตาเดิมของพรรค
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่คาดว่าจะถูกเสนอชื่อเข้าเป็น รมต.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเป็น นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ กล่าวถึงการปรับครม.ที่มีกระแสข่าวจะไปดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน ว่า ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ 4 รัฐมนตรี จนถึงขณะนี้น่าจะอยู่ที่เดิมทั้งหมด คงไม่มีการย้ายไปอยู่กระทรวงอื่นตามที่มีข่าว
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงรายชื่อรัฐมนตรีสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ในการปรับ ครม. มีการสลับเปลี่ยนกระทรวงหรือไม่ว่า ทุกอย่างอยู่ที่การพูดคุยเจรจา แต่คุยในหลักการแล้วคล้ายๆกับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้วสลับกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ถ้าบอกไปก่อนก็ไม่มัน”
เมื่อถามว่า การสลับตำแหน่งจะทำให้การทำงานในกระทรวงง่ายขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ผมคิดว่า คนของใคร คนนั้นก็มาดูแลทำงานได้เต็มที่ เพราะถ้าเกิดแยกกันอยู่อีกฝั่ง ก็อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นความรับผิดชอบของใคร ก็ไปดูแลกัน มันก็มีเหตุมีผล คนที่ได้ประโยชน์จากการทำงานได้เต็มที่ไม่ใช่รัฐมนตรี แต่คือประชาชน จึงเป็นเหตุผลที่น่าจะทำได้ แต่คนที่ตัดสินใจคือนายกฯเราก็เสนอไป"
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยส่งรายชื่อให้นายกฯแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้ส่ง ซองจดหมายอยู่ในตู้ เมื่อถามว่า มีข่าวว่า พรรคภูมิใจไทยอาจมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพรรคโดยมีชื่อ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี จะเข้ามา นายอนุทินกล่าวว่า "ก็อยู่ในซอง และจำไม่ได้ เรื่องพวกนี้เราไม่ได้แต่งตั้งเอง มีผู้ใหญ่แต่งตั้ง แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าลงมา"
วานนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/4 ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ภายหลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่ง 2 รายชื่อโควตาของพรรคให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นที่เรียบร้อย ได้แก่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรค และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว โดยการปรับ ครม.ครั้งนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะเป็นการปรับเล็ก ไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม โดยทั้ง 2 รายจะเข้าไปเสียบในตำแหน่งที่ว่างอยู่เท่านั้น
โดย นายชัยวุฒิ ได้รับแรงสนับสนุนจาก พล.อ.ประวิตร และเคยรับปากว่าจะให้ตำแหน่งรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้น หรือเป็น Waiting List อันดับ 1 รวมไปถึงการทำงานในสภาฯที่เข้าตา พล.อ.ประวิตร มาตลอด อีกทั้งยังได้รับการผลักดันจากนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ที่ทำงานร่วมกันด้วย จะได้รับการเสนอชื่อเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
ส่วน น.ส.ตรีนุช จะประเดิมการเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกด้วยตำแหน่งใหญ่ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับ ส.ส.ในพรรคที่ก่อนหน้านี้พยายามออกมาดิสเครดิต น.ส.ตรีนุชไม่น้อย ทั้งนี้เนื่องจากตระกูลเทียนทองมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างพี่น้อง 3 ป. ทั้ง พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตั้งแต่ครั้งยังรับราชการทหารที่ จ.ปราจีนบุรี ก่อนแยกออกมาเป็น จ.สระแก้ว รวมทั้งที่ผ่านมา น.ส.ตรีนุช ที่มีดีกรีเป็น ส.ส.ถึง 5 สมัย และย้ายมาร่วมพรรคพลังประชารัฐแบบเซอร์ไพร์ส จนมีข่าวว่าแตกหักนายเสนาะ เทียนทอง ที่มีศักดิ์เป็นลุง สร้างความประทับใจให้ พล.อ.ประวิตร เป็นอย่างมาก แต่กลับไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานกรรมาธิการของสภาฯ ที่สำคัญ น.ส.ตรีนุช และครอบครัว ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ ที่ให้ความสนใจและสนับสนุนงานด้านการศึกษามาโดยตลอดตั้งแต่สมัยรัฐบาล คสช. ทำให้ น.ส.ตรีนุช ได้รับตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ แบบไร้คู่แข่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการปรับ ครม.ครั้งนี้เป็นการโชว์ภาวะผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องปรามกลุ่มการเมืองในพรรคพลังประชารัฐที่เคลื่อนไหวอย่างหนักหลังทราบว่าจะมีการปรับ ครม. โดยนายกฯมองว่าหลายกลุ่มล้ำเส้น และเล่นเกมการเมืองมากเกินไป หากให้ตำแหน่งใหญ่โตขึ้นจะกลายเป็นวัฒนธรรมการเมืองของพรรคที่ไม่ดี และนายกฯเองก็เหมือนเป็นหัวหลักหัวตอ ทุกคนคอยวิ่งเข้าหา พล.อ.ประวิตร โดยไม่สนใจทำผลงานในฐานะรัฐมนตรี นายกฯจึงตัดสินใจปรับ ครม.โดยไม่คำนึงถึงเกมการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ และให้ รัฐมนตรีหน้าใหม่ได้ตำแหน่งใหญ่ เพื่อแสดงความเด็ดขาด ไม่หวั่นไหวต่อการวิ่งเต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าได้ตกลงจะสลับเก้าอี้กัน ระหว่างเก้าอี้รมช.พาณิชย์โควตาพรรคภูมิใจไทย กับ รมช.คมนาคม โควตาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเก้าอี้เดิมของ นายถาวร เสนเนียม โดยในพรรคภูมิใจไทยมีกระแสข่าวว่า นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี และอดีต รมช.ศึกษาธิการ จะมาเป็น รมช.คมนาคม เบียด นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ หลุดจาก ครม.
ทางด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังปฏิเสธกระแสข่าวการแลกเปลี่ยนโควตากับพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างว่า ยังไม่มีการคุยกันเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามโควตาเดิมของพรรค
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่คาดว่าจะถูกเสนอชื่อเข้าเป็น รมต.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเป็น นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ กล่าวถึงการปรับครม.ที่มีกระแสข่าวจะไปดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน ว่า ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ 4 รัฐมนตรี จนถึงขณะนี้น่าจะอยู่ที่เดิมทั้งหมด คงไม่มีการย้ายไปอยู่กระทรวงอื่นตามที่มีข่าว
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงรายชื่อรัฐมนตรีสัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ในการปรับ ครม. มีการสลับเปลี่ยนกระทรวงหรือไม่ว่า ทุกอย่างอยู่ที่การพูดคุยเจรจา แต่คุยในหลักการแล้วคล้ายๆกับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้วสลับกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ถ้าบอกไปก่อนก็ไม่มัน”
เมื่อถามว่า การสลับตำแหน่งจะทำให้การทำงานในกระทรวงง่ายขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ผมคิดว่า คนของใคร คนนั้นก็มาดูแลทำงานได้เต็มที่ เพราะถ้าเกิดแยกกันอยู่อีกฝั่ง ก็อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นความรับผิดชอบของใคร ก็ไปดูแลกัน มันก็มีเหตุมีผล คนที่ได้ประโยชน์จากการทำงานได้เต็มที่ไม่ใช่รัฐมนตรี แต่คือประชาชน จึงเป็นเหตุผลที่น่าจะทำได้ แต่คนที่ตัดสินใจคือนายกฯเราก็เสนอไป"
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยส่งรายชื่อให้นายกฯแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้ส่ง ซองจดหมายอยู่ในตู้ เมื่อถามว่า มีข่าวว่า พรรคภูมิใจไทยอาจมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพรรคโดยมีชื่อ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี จะเข้ามา นายอนุทินกล่าวว่า "ก็อยู่ในซอง และจำไม่ได้ เรื่องพวกนี้เราไม่ได้แต่งตั้งเอง มีผู้ใหญ่แต่งตั้ง แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าลงมา"