“สิระ-เสรีพิศุทธ์” เปิดศึกกันไม่เลิก!! ต่างคนต่างเบี้ยวแจง กมธ.ปม “เสรีพิศุทธ์” สร้างท่าเทียบเรือรุกแม่น้ำเจ้าพระยา ด้าน “สิระ” จี้ กมธ.ป.ป.ช. ทำอะไรเพื่อประชาชนบ้าง
วันนี้ (11 มี.ค.) คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นประธาน ได้หยิบยกกรณีที่ นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรกระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร บรรจุวาระการประชุมกล่าวหา พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ก่อสร้างท่าเทียบเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.พิจารณาและมีมติให้ยุติเรื่องดังกล่าวไปแล้ว
โดยวันนี้ได้เชิญ ว่าที่ร้อยตรี อาพัทธ์ สุขะอนันต์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นายจักรพันธ์ จันทรเจริญ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย รวมไปถึงนายสิระ เข้ามาชี้แจงในกรรมาธิการ แต่นายสิระ ไม่มาตามคำเชิญ
ทั้งนี้ กรรมธิการพยายามสอบถามรองเลขาธิการสภาฯและฝ่ายกฎหมายว่า กมธ.มีสิทธิ์พิจารณาเรื่องเดิมซ้ำซ้อนกับที่กรรมาธิการอื่นเคยพิจารณาไปแล้วสามารถทำได้หรือไม่ แต่ทางเลขาธิการ ก็พยายามชี้แจงว่า ตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญ ต้องไม่ใช่เรื่องที่ซ้ำซ้อนกัน ยกเว้นพบพยานหลักฐานใหม่ หรือหากมีการตั้งเรื่องที่ซ้ำซ้อนกัน ก็มีความจำเป็นจะต้องขออนุญาตจากประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งกรรมาธิการร่วมขึ้นมาพิจารณา แต่ในกรณีของ นายสิระ เจนจาคะ ทางกรรมาธิการไม่ได้แจ้งไปทางฝ่ายเลขาฯ และเวลาที่กรรมาธิการหยิบยกประเด็นใดขึ้นมาพิจารณาฝ่ายเลขาก็จะไม่ทราบว่าซ้ำซ้อนกับเรื่องที่กรรมาธิการอื่นเคยพิจารณาไปก่อนหน้านี้หรือไม่
ขณะที่ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กรณีที่ นายสิระ ยกเรื่องของตนเข้ามาสู่กรรมาธิการการกฎหมายฯ ถือเป็นเรื่องทางการเมืองทั้งสิ้น เป็นการกระทำที่อยากเอาใจผู้มีอำนาจ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวในทางคดี อัยการก็สั่งไม่ฟ้องไปแล้ว แต่ต่อมากรมป่าไม้มาแจ้งความดำเนินคดีกับตน จึงส่งสัยว่าเรื่องนี้กรมป่าไม้เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร เพราะการจะสร้างท่าเทียบเรือต้องขออนุญาตกรมเจ้าท่าไม่ใช่กรมป่าไม้
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ ซึ่งวันนี้ไม่ได้เดินทางมาชี้แจงต่อกรรมาธิการ ป.ป.ช. โดยให้เหตุผลว่าไม่ทราบประเด็นที่กรรมการ ป.ป.ช. จะเรียกตนไปชี้แจง ขอให้ทำประเด็นมาก่อน อีกทั้งส่วนตัวก็เคยเชิญ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ มาชี้แจงแต่ท่านก็ไม่ยอมมา ดังนั้น การดำเนินการต้องยึดระเบียบข้อบังคับการประชุมเป็นหลักไม่ใช่คิดจะเรียกใครมาชี้แจงก็ได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องของตน เหตุใดจึง ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเร็ว กว่าเรื่องอื่นทั้งที่กรรมาธิการ ป.ป.ช. มีเรื่องค้างการพิจารณาเป็นร้อยเรื่อง และเรื่องของตนก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติเลย และเรื่องให้ตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นพันเรื่องก็ยังไม่คืบหน้า จึงขอให้ประชาชนพิจารณาว่าการกระทำของพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เป็นอย่างไร ที่สำคัญเรื่องนี้ความจริงแล้ว พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ต้ องมาขอบคุณตนเองด้วยซ้ำ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่ทำให้เรื่องนี้กระจ่าง เนื่องจากทุกคนก็สงสัยว่าเหตุใดกรมป่าไม้ จึงเข้ามาดำเนินคดีกับพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ได้ กรมป่าไม้ใช้อำนาจใด ดังนั้นการประชุม กมธ.กม.ในครั้งหน้า ตนจะเชิญ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ มาชี้แจงอีกครั้ง พร้อมทั้งเชิญเจ้าอาวาสวัดที่ให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เช่าที่ดินก่อสร้างบ้านพักมาชี้แจงด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมกรรมาธิการ ป.ป.ช.ก็มีมติเชิญ นายสิระ เจนจาคะ มาชี้แจงอีกครั้ง รวมถึง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการการกฎหมายฯ และฝ่ายกรรมาธิการ 2 มาชี้แจงเรื่องดังกล่าวในสัปดาห์หน้า