อดีตเภสัชกรเยือนบุรีรัมย์ งาน “มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน” หาแหล่งวัตถุดิบ ชวนมองกัญชามุมใหม่ เผยผู้ป่วยมะเร็งใช้ โรคหยุดลาม-มีแรง
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในงาน “มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน” จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ (สสจ.) และสถาบันการศึกษา ตลอดจนภาคเอกชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม เพื่อขานรับนโยบายปลดล็อกกัญชา-กัญชง ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตลอดจนใช้ในการประกอบอาหาร เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในมหกรรมวันสุดท้ายยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน แพทย์ พยาบาล นักธุรกิจ ผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร ไปจนถึงประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค เดินทางมาลงทะเบียนเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดตั้งแต่ทางเข้า
พญ.วนิดา จันทรเทพเทวัญ อายุ 67 ปี อดีตนักวิจัยองค์การเภสัชกรรม ด้านแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน เดินทางจาก จ.นนทบุรี มายัง จ.บุรีรัมย์ ให้เหตุผลที่สนใจงานนี้ว่า เนื่องจากตนเป็นหนึ่งในวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนนทบุรี เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสมุนไพร รวมถึงทำเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และยาจากสมุนไพรด้วย จึงมาหาแหล่งวัตถุดิบที่จะซัปพลายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าจะสามารถซื้อจากที่ไหนได้บ้างเพื่อมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เหล่านี้ โดยก่อนหน้านี้เคยทำสารสกัดน้ำมันกัญชาและกัญชง ในงานก็มีจำหน่ายด้วยซึ่งมีประโยชน์มาก คิดว่าอาจจะเอาไปต่อยอดใส่เป็นแคปซูลในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“การปลดล็อกราก ลำต้น และใบ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้กัญชาและกัญชงได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยมีข้อจำกัดในการใช้ ทำให้ประชาชนต้องใช้แบบแอบๆ ใช้กัญชาจากใต้ดินบ้าง แต่ครั้งนี้มีการทำให้ใช้อย่างถูกกฎหมายก็เชื่อว่าจะทำให้ตลาดของไทยโตขึ้น และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรค กัญชาจะมีประโยชน์ดีมากในการรักษา เป็นอีกทางเลือกที่ดี ส่วนตัวมีเพื่อนที่เป็นโรคพาร์กินสัน เมื่อได้ใช้น้ำมันกัญชาก็เกือบจะหายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่หยดน้ำมันกัญชาสองหยดที่ใต้ลิ้น ซึ่งเป็นตัวที่มีสาร CBD อย่างเหมาะสม แต่คนใช้ก็ต้องเลือกใช้ให้เป็นว่ากัญชาชนิดนี้เหมาะกับผู้ป่วยชนิดไหน เราสามารถเลือกได้ กัญชากัญชงเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวงการแพทย์ ล่าสุดมีน้องที่เป็นโรคมะเร็งก็ใช้น้ำมันกัญชาชนิดที่มีสาร THC สูง ซึ่งช่วยบรรเทาโรคของเขาได้ ทำให้นอนหลับสบาย มะเร็งที่กำลังจะลามไปยังจุดอื่นก็สามารถหยุดยั้งได้ ทำให้ผู้ป่วยมีแรงมากขึ้น จนตอนนี้ขับรถได้แล้ว” พญ.วนิดากล่าว
พญ.วนิดากล่าวต่อว่า อยากให้มองข้อดีของกัญชาต่างออกไปจากภาพลักษณ์เดิมที่มองว่าเป็นยาเสพติด เพราะส่วนตัวก็ใช้เวลาที่นอนไม่หลับ แต่ไม่รู้สึกว่าเสพติดแต่อย่างใด วันไหนที่ไม่อยากใช้ เราก็ไม่ต้องใช้ ไม่มีความรู้สึกเสพติดเลย
พญ.วนิดายังกล่าวถึงภาพรวมงานมหกรรมด้วยว่า จัดออกมาได้ค่อนข้างดี ส่วนตัวอยากให้มีบูทกิจกรรมมากกว่านี้ พร้อมแนะนำว่าครั้งหน้าหากมีกิจกรรมดีๆ อีกก็อยากให้จัดในพื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอากาศร้อน
“จะไปฟังสัมมนาด้วย เพราะสนใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายซึ่งเวลานี้มีข้อกฎหมายออกมาอยู่เรื่อยๆ เราต้องตามให้ทัน จะได้รู้ว่าเราจะไปขึ้นทะเบียนอย่างไร ทั้งในแง่อาหารเสริม และในแง่ยา มีกี่ทะเบียน ซึ่งปัจจุบันมี 5 ตำรับยาที่สามารถขึ้นทะเบียนได้ ณ ตอนนี้ แต่ในรายละเอียดจะต้องติดตามต่อไปว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.) ได้อย่างแท้จริงเมื่อไหร่ เพราะในปัจจุบันส่วนประกอบของเครื่องสำอางก็ใช้ได้เฉพาะส่วนของเมล็ดจากพืชกัญชง ยังไม่สามารถใช้กัญชาได้ จึงติดตามมาโดยตลอด” พญ.วนิดากล่าว