“สัณหพจน์” รองโฆษก พปชร.เมินเสียงนกเสียงกา เหน็บบางพรรคทำตัวเป็นเด็กขี้โวยวาย จ้องเล่นเกมการเมือง มั่นใจผลงานของพรรคเป็นตัวชี้วัดคะแนนนิยม เชื่อ “อาญาสิทธิ์” ชนะใจชาวบ้าน เข้าวินเลือกตั้งซ่อมเขต 3 เมืองคอนแน่ ฝากให้คิดอย่าดูถูกคะแนนเสียงบริสุทธิ์ของประชาชน
วันนี้ (3 มี.ค. 64) นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้ประสานงานการเลือกตั้งซ่อมเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพรรคพลังประชารัฐส่งนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ลงแข่ง กล่าวว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคยังคงเล่นเกมการเมืองไม่เลิก ออกมาโวยวายเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐนั้นเราถือว่าการเล่นเกมการเมืองไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรแก่พี่น้องประชาชน ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาปากท้อง หรือความเดือดร้อนอย่างแท้จริง แค่เพียงมุ่งหวังผลประโยชน์ส่วนตัวของกลุ่มบุคคลบางส่วนเท่านั้น โดยไม่สนใจจะพัฒนาบ้านเมือง หรือพื้นที่ของตนเอง
“สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐพิสูจน์ได้ คือ ผลงานของพรรค ผลงานของ ส.ส.ในพื้นที่ เมื่อมีโอกาสเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะต้องเร่งทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน โดยตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งด้านสังคม ด้านความมั่นคง แม้กระทั่งการต่อสู้กับวิกฤตกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แก้ไขปัญหา และควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่” นายสัณหพจน์กล่าว
รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลยังได้ออกนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งโครงการ “เราชนะ” และ “คนละครึ่ง” ที่จะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน พร้อมกับกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจฐานรากให้ยังหมุนเวียนต่อไปได้ และเชื่อว่านายอาญาสิทธิ์ซึ่งเป็นคนดี จริงใจ จริงจัง และมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน จะสามารถครองใจพี่น้องประชาชนได้ด้วยผลงานของพรรค และของตัวนายอาญาสิทธิ์เอง เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่การข่มขู่ กดดัน หรือใช้วิธีการสกปรกอย่างการซื้อสิทธิขายเสียง
“ที่ผ่านมาเรื่องเกมการเมืองมีมาโดยตลอดจนพี่น้องประชาชนรู้สึกเอือมระอา อย่างเช่นการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา พรรคการเมืองบางพรรคเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างดุเดือด โดยไม่ได้มองเรื่องการแข่งขันที่ผลงานหรือนโยบาย แต่กลับใช้วิธีแบบที่เคยทำจนติดเป็นนิสัยตั้งแต่อดีต คือ ทั้งขอร้อง กดดัน และข่มขู่ เพื่อให้ชนะเลือกตั้ง ขณะที่การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ก็ยังเอาผลงานของพรรคอื่นมาเคลมเป็นผลงานของตัวเองอีก ผมยืนยันว่าไม่ใช่วิธีของพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน ขอแนะนำว่าอย่าดูถูกคะแนนเสียงที่บริสุทธิ์ของพี่น้องประชาชน” นายสัณพจน์ระบุ