xs
xsm
sm
md
lg

เอ๊ะยังไง! “ปวิน” ยอมแพ้ “ศักดิ์เจียม” มโน “เจ้าสั่ง” ไม่ให้ประกัน “พุทธะอิสระ” ย้อนรุ้ง “พุทธิพงษ์” ขอดูแลพ่อแม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ที่ถือว่า เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด ม็อบ 3 นิ้ว จากแฟ้ม
ส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ “ปวิน” โพสต์ เหมือนวันนี้ยอมแพ้ “ศักดิ์เจียม” มโนหนัก เหตุ 4 แกนนำ 3 นิ้ว ไม่ได้ประกัน เพราะเจ้าสั่ง “พุทธะอิสระ” ย้อน “รุ้ง” ศาลปล่อยก็บอกว่า ศาลอยู่ฝั่งม็อบ “พุทธิพงษ์” ขอทบทวนใช้เวลาดูแลพ่อแม่

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (28 ก.พ. 64) เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และลี้ภัยญี่ปุ่น โพสต์ข้อความระบุว่า

“หลายวันมานี้ รู้สึกเบื่อเฟซบุ๊ก ไม่ใช่เพราะดิชั้นเห่อหรือตื่นเต้นกับคลับเฮาส์อะไรเลย แต่เพราะหลังๆ
เฟซบุ๊กทำตามคำขอรัฐบาลในการลบโพสต์ของดิชั้นที่เขียนเกี่ยวกับราชวงศ์ เลยรู้สึกว่า ในที่สุด มันก็มีเรื่องเซอเซอร์มากวนใจเรา

...ตัดฉากไปที่คลับเฮาส์ นี่ก็ยังไม่รู้ว่าจะถูกทางการไทยปิดเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อย มันเป็นกรอบการสื่อสารแบบใหม่ที่ใช้เสียง พูดให้เคลียร์ไปเลย จบแล้วจบกัน ไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะถูกทางการไทยลบโพสต์ไหม คือมันไม่มีอะไรจะให้ลบ ก็เท่านั้น

...ในหลายวันที่ผ่านมา ได้มีโอกาสคุยกันคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองด้วย แต่เป็นเรื่องสัพเพเหระทั่วไป บอกได้เลยว่า ยอมใจคนรุ่นใหม่จริงๆ ส่วนใหญ่หัวก้าวหน้ามาก และต้องการการเปลี่ยนแปลง จึงอยากฝากไปบอกเผด็จการไทยว่า คุณอาจจะชนะวันนี้ แต่อนาคตไม่มีที่ให้มึงค่ะ”

ภาพ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ตัวพ่อ “ล้มเจ้า” จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน เพจ เสธ.Play โพสต์ กรณี สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ยังคงบิดเบือนป้ายสี ว่า เจ้าเป็นคนสั่งไม่ให้ประกันแกนนำ 3 นิ้ว ว่า

“เรื่องมีอยู่ว่า หงอกเจียมโพสต์โยงว่า การที่แกนนำสามกีบไม่ได้ประกันตัว เป็นเพราะคำสั่งตรงจาก ร.10

ข้อเท็จจริง
1. เพนกวินมีคดีอยู่ประมาณ 40 คดี
2. จาก 40 คดีของเพนกวิน เป็นคดี ม.112 ประมาณ 12 คดี
3. ทนายอานนท์ มีคดี 112 อยู่ 9 คดี
4. ก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่ากี่หนแล้ว ศาลให้ประกันตัวตลอด ทุกครั้ง
5. แต่ก็ยังคงประพฤติชั่วซ้ำๆ เมื่อมีพฤติกรรมแบบนี้ ศาลจึงไม่ให้ประกันตัว
6. เมื่อไม่ให้ประกันตัว ก็ยังฝากคนอื่นโพสต์ข้อความปลุกปั่นจากในคุกได้อีก
ถามว่า พฤติกรรมเป็นแบบนี้ จะโทษใครเรื่องไม่ได้ประกันตัว?

สำหรับสมศักดิ์ตัวปลอม
1. ฝีมือพอใช้ได้เรื่องการมโน แต่ก็ยังดูโง่อยู่
2. ศาลตัดสินเป็นโทษกับสามกีบ ก็มโนโยงไปว่า เพราะในหลวง ร.10 สั่งได้
3. แต่จะแกล้งความจำสั้นขึ้นมาทันที ถ้าเป็นกรณีศาลตัดสินได้ถูกใจตัวเอง อย่างกรณี กปปส. ติดคุกหรือศาลสั่งยกคำร้องระงับคลิปไลฟ์สดธนาธร

สำหรับร่านที่ติดตามสมศักดิ์เจียม
1. โง่
#เสธPlay”

ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul ของ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์ ข้อความในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 19:42 น. ระบุว่า

“ผมสังหรณ์ใจตั้งแต่เมื่อวานว่า จะออกมาแบบนี้

งานนี้เป็นคำสั่ง... สั่งแล้วไม่มีคำสั่งอีก คนระดับล่างก็ทำตามกันมา ไม่ว่าจะขัดความจริงอย่างไร”

ภาพ อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เฟซบุ๊ก “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” ของ อดีตพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ในฐานะอดีตแกนนำ กปปส. โพสต์หัวข้อ “เอาไงเนี่ย รุ้ง”

โดยระบุว่า “พอตำรวจจับ ศาลปล่อย
พอตำรวจจับ ศาลปล่อย
รุ้งก็บอกว่า ศาลอยู่ฝั่งม็อบ

แต่พอศาลไม่ให้ประกันตัว 4 แกนนำ ด้วยพฤติกรรมผิดเงื่อนไข ที่ศาลสั่งห้ามออกมาชุมนุม สร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมือง

พวกหนูๆ ก็ไม่เคยสำเหนียก
ยังทำผิดซ้ำๆ ซากๆ เหมือนเดิม

คงเพราะหนูๆ เชื่อมั่นว่า ศาลเป็นพวกเดียวกับหนูล่ะสิ
พอเที่ยวนี้แกนนำ 3 นิ้วถูกจับ ศาลไม่ให้ประกันตัว เพราะผิดเงื่อนไขมาหลายครั้ง หนูก็ออกมาโพสต์ คร่ำครวญว่า
“....................................................................................”
งั้นก็แสดงว่า ไอ้ที่หนูมโนเอาเองว่า ศาลอยู่ฝั่งม็อบ 3 นิ้ว นั่นก็โกหกหละสิ หรือหนูๆ คิดว่า ศาลจะยุติธรรมได้ก็ต่อเมื่อ ต้องเป็นข้างเดียวกับพวกม็อบ 3 นิ้ว ใช่ไหมล่ะ

นี่มันประชาธิปไตยโลกไหนกันล่ะเนี่ย
ใครที่ให้ประโยชน์ ก็บอกเป็นพวกเดียวกัน
ใครที่ไม่ให้ประโยชน์ ก็ต้องเป็นศัตรูกันงั้นสิ”

ภาพ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ขอกลับไปดูแลพ่อแม่ และครอบครัว จากเฟซบุ๊ก ส่วนตัว
ด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

“หมดแรง หมดใจ หมดศรัทธา เพราะสิ่งที่ทำมันไร้ค่า ไร้ราคาสิ้นดี?...”

ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่ผู้แทนของประชาชนด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธา วันนี้คงได้เวลากลับไปดูแลคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว ลูกๆ...ขอบคุณในทุกๆ กำลังใจที่มีให้ผมมาโดยตลอด จากนี้จะมีโอกาสได้ทบทวนตัวเอง มองไปข้างหน้า ไม่เสียใจในสิ่งที่ได้ทำเพราะเราทำด้วยสติ ความคิดและศรัทธา เราจะทำหน้าที่ประชาชนที่ดีต่อไปด้วยความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ภูมิใจที่สุดที่ได้อยู่บนแผ่นดินไทยของพระองค์ 🙏

#เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน”

นอกจากนี้ ที่น่าคิดเกี่ยวกับ สถานการณ์ทางการเมือง ที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญ

เฟซบุ๊ก ทนายวันชัย สอนศิริ ของ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“เมื่อดาวพฤหัสขยับตัวแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองก็เกิดขึ้น

ระยะนี้เป็นการขยับตัวของดาวพฤหัส เราจะเห็นแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ มักจะมีแรงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นทางการเมืองเสมอมา เพราะรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของอำนาจ เป็นเรื่องของการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง คนได้เปรียบก็ไม่อยากแก้ คนเสียเปรียบก็อยากแก้ เป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย ต่างฝ่ายต่างก็อ้างเหตุผลกันร้อยแปดพันประการ เพื่อความมั่นคงบ้าง เพื่อประชาธิปไตยบ้าง เพื่อประชาชนบ้าง แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของการแย่งชิงอำนาจกันทั้งนั้น โดยเอารัฐธรรมนูญมาเป็นข้ออ้างสนับสนุน

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ไม่ต่างกับยุคก่อนๆ ตัวละครอาจเปลี่ยนข้างเปลี่ยนมุม เปลี่ยนจุดยืน แต่ยังเล่นกันบทเดิม และทุกครั้งที่มีการแก้รัฐธรรมนูญ ความเร่าร้อนและความรุนแรงก็มักจะเกิดขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง

สังเกตให้ดีจะเริ่มเห็นเค้าลางและได้กลิ่นตั้งแต่วันพิจารณารัฐธรรมนูญในวาระ 2 ที่ผ่านมา ยิ่งศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในวันนั้นด้วย กลิ่นแห่งการเปลี่ยนแปลงยิ่งแรงกระพือโหมมากขึ้น

ช่างเหมาะกับการที่ดาวพฤหัสจะขยับตัวแยกจากดาวเสาร์เข้าสู่ราศีกุมภ์ สร้างความสั่นสะเทือนของดวงดาว ฟาดหัวฟาดหางทั้งในสภาและนอกสภา เป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาในช่วงนี้ถึงปลายเดือนมีนาคม อาจจะเกิดเหตุปรับครม.ใหญ่ก็ได้ หรือปรับพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้ หรือนายกฯลาออก เปลี่ยนคนใหม่ก็ได้ หรือขยับทางไหนไม่ได้อาจจะยุบสภาก็ได้ ทำให้พ.ร.บ.ตำรวจและการแก้รัฐธรรมนูญพลอยตกไปด้วย ถ้าเลือกตั้งใหม่ก็ใช้กติกาเดิม

นั่นคือ แนวทางของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งดวงดาวชี้ชัดไม่ได้ แต่บอกได้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่แน่ ซึ่งถ้าพิจารณาจากสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้แล้วก็น่าจะจริง ศาลอาญาพิพากษาตูมไปแล้ว อาจตามมาด้วยศาลรัฐธรรมนูญอีกเปรี้ยงหนึ่ง ถ้าไม่เปรี้ยงปร้างก็อาจจะมาเป็นระเบิดอีกตูมใหญ่ในรัฐสภาวาระ 3 วันที่ 16 มีนาคมก็ได้ ระเบิดแต่ละลูกสร้างแรงสั่นสะเทือนได้ทั้งนั้น พิจารณาจากดวงดาวและเค้าลางที่เห็นต่อหน้าแล้วบอกได้เลยว่า มีเรื่องแห่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่แบบคาดไม่ถึงแน่ แต่เขาว่าเปลี่ยนแล้วจะดี... ตามดวงดาวว่าอย่างนั้น ถ้าไม่เปลี่ยนมันอึมครึมครับ”

แน่นอน, ประเด็นสำคัญอาจอยู่ที่ การไม่ได้ประกัน 4 แกนนำคนสำคัญ ของม็อบคณะราษฎร หรือ ม็อบ 3 นิ้ว ทำให้กระแสม็อบดูลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งมวลชนที่เข้าร่วมก็น้อยลง แต่ความจริง ส่วนหนึ่งมาจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในม็อบด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่า แกนนำเริ่มคุมมวลชนฮาร์ดคอร์ ไม่อยู่ และพร้อมปะทะกับฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐด้วยความรุนแรง รวมทั้งเริ่มมีการใช้อาวุธ ระเบิดปิงปอง เข้าปะทะ อย่างที่เห็นตามคลิปและข่าว จนทำให้มวลชนที่ออกไปร่วมต่อสู้อย่างสันติวิธี เริ่มทบทวนในการเข้าร่วม และไม่เสี่ยงที่จะเอาชีวิตเข้าแลก เพราะเห็นแนวโน้มนับวันม็อบจะใช้ความรุนแรง

ดังนั้น โอกาสที่จะเป็นไปได้มีสองทาง หนึ่ง เมื่อม็อบใช้ความรุนแรง ความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวก็จะจบลงทันที เพราะจะกลายเป็นอันธพาลทางการเมือง มากกว่านักประชาธิปไตย สอง การสลายการชุมนุม เพื่อรักษาความสงบของเจ้าหน้าที่ก็จะชอบธรรมทันทีเช่นกัน

แต่ไม่ว่าจะทางไหน ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ไม่ใช้ความรุนแรงจนเกินกว่าเหตุ หรือทำให้มีผู้เสียชีวิต ม็อบจะเป็นฝ่ายที่ถูกควบคุมให้อยู่ในความสงบและอาจถูกจับกุมด้วย

ที่สำคัญ คนที่อยู่เบื้องหลังม็อบคนสำคัญ อย่าง “สมศักดิ์ เจียม” ก็เคยออกมาส่งสัญญาณเตือนเอาไว้แล้วว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะด้วยความรุนแรง เพราะยังมีประชาชนคนไทยจำนวนมหาศาล ที่ไม่เห็นด้วยกับการ “ปฏิรูปสถาบัน” และยังบอกเอาไว้ด้วยว่า ถ้าปะทะเมื่อไหร่ ฝ่ายม็อบจะพ่ายแพ้ทันที

เหนืออื่นใด วันนี้ “ปวิน” ออกมาแสดงความรู้สึกว่า เวทีที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเริ่มถูกจัดการ จนอาจไม่มีที่ยืนบนสื่อออนไลน์ในที่สุด ซึ่งอย่าลืมว่า เวทีของปวิน คือ เวทีที่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบและยอมตนเป็นสาวกมากที่สุด

เมื่อเป็นเช่นนี้ โอกาสที่จะมองถึงชัยชนะ ท่ามกลางแกนนำคนสำคัญไม่ได้ประกัน ท่ามกลางม็อบแต่ละครั้งเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง รวมทั้งเวทีทางความคิด ก็หดหายไปเรื่อย การจะหวังในชัยชนะจึงไม่ใช่เวลาอันใกล้? และดูเหมือนคนที่ปลุกปั่นก็เริ่มทำใจแล้ว

กระนั้น ที่น่าเศร้าก็คือ เยาวชนที่ถูกหลอก และเสียสละชีวิต เสียสละการเรียน มาออกหน้าแทนพวกต้องการ “ล้มเจ้า” และอาจต้องติดคุก ใครจะรับผิดชอบ

เพราะกฎหมายก็คือ กฎหมาย ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อย่างที่คนบางกลุ่มยุยงส่งเสริม และอำมหิตที่สุด ก็คือ คนอยู่เบื้องหลังที่รู้กฎหมายเป็นอย่างดี แต่ก็ยังหลอกเด็กมาเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางแทน ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า ก็ลองคิดดู!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น