ครม.เห็นชอบคลอดกฎหมายเอ็นจีโอ กำหนดให้รายงานรับเงินจากใคร เอาไปทำอะไร ให้ สตง.ตรวจสอบ มี 6 ประเทศใช้กฎหมายลักษณะนี้ “จุติ”หนุนคุมเข้ม แฉรับเงินบริจาคมาเยอะแต่ถึงมือชาวบ้านไม่ถึง 30 เปอรฺเซ็นต์ ซ้ำบางองค์กรหนุนม็อบส่งผลเสียต่อประเทศ
วันนี้ (23ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ครม.ได้มีการเปิดพอดแคสต์ ที่นายกฯ ออกผ่านเพจไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯ กล่าวว่า กระทรวงไหนที่ยังไม่มีผลงานเข้ามาก็ส่งมาได้ ตนก็จะพูดให้ ไม่ต้องน้อยใจ นอกจากนี้ นายกฯ ยังพูดถึงช่วงหนึ่งถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เล่นนแอพพลิเคชั่นคลับเฮ้าส์ ว่า “ใครจะเล่นก็เล่น ผมไม่มีเวลาเล่น ผมจะไปเล่นกับเขาทำไม มีคนมาถามผมว่าจะเล่นหรือไม่ ผมไม่เล่น และได้ข่าวมาว่าอดีตคนนายกฯ ก็เล่น ก็แล้วแต่เขา ก็ไปดูแล้วกัน”
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบและพูดคุยเรื่องการออกร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม พ.ศ. ....หรือกฎหมายเอ็นจีโอฉบับใหม่ ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เสนอ เพื่อให้เอ็นจีโอรายงานว่าได้รับเงินจากใคร โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รายงานว่า เมื่อกฎหมายฉบับดังกล่าวเกิดขึ้นเอ็นจีโอต้องรายงานว่าจะเอาเงินไปทำอะไร ได้รับเงินมาจากใคร โดยมีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)เป็นผู้ตรวจสอบ ด้านกฤษฎีกา รายงานว่า อยู่ในขั้นกำลังร่างกฎหมายดังกล่าว และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และมี 6 ประเทศที่ใช้กฎหมายในลักษณะนี้
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยกตัวอย่างว่า มีเอ็นจีโอที่ จ.เชียงใหม่ไปรับเงินจากต่างประเทศมา พอถึงเวลาไปทำข่าวให้ประเทศเสียหาย เพื่อไปรับเงินมาต่อ และเงินที่รับมาไปจ่ายให้ชาวบ้านแทบไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จำเป็นต้องควบคุม เอ็นจีโอปลอมก็มีจำนวนมากที่จะมาแสวงหาผลประโยชน์ในประเทศ รวมถึงในประเทศเอ็นจีโอที่ดีก็ดี สามารถเข้ามาทำงานได้จริง รัฐบาลจะได้ช่วยเหลือ ดังนั้นถ้ากฎหมายฉบับดังกล่าวออกมาถือเป็นเรื่องดีจะได้ตรวจสอบว่าเอาเงินมาทำอะไร เพราะเงินที่ได้รับบริจาคมามีจำนวนมาก
ขณะที่หน่วยงานข่าวกรอง รายงานว่า เอ็นจีโอที่อยู่ในประเทศไทยมีเอ็นจีโอในเรื่องสิทธิมนุษย์ชน ซึ่งเกี่ยวกับการชุมนุมในขณะนี้ และส่งผลเสียต่อประเทศ ถือเป็นเรื่องดีที่จะมีกฎหมายมาควบคุมให้ชัดเจน
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวด้วยว่า ขอให้ไปศึกษาประเทศที่ใช้กฎหมายดังกล่าว และชี้แจงให้เกิดความเข้าใจและความชัดเจน เพราะตอนนี้มีประเด็นเรื่องเอ็นจีโออยู่ เราไม่ได้ออกกฎหมายไปขัดขวาง แต่เพื่ออำนวยความสะดวก
ในช่วงท้ายการประชุม ครม. นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้ลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนทำงานอย่างต่อเนื่องและเต็มที่ตราบใดที่ตนเป็นนายกฯจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ และนายกฯ ยังสั่งการให้ทำงานอย่างบูรณาการกันข้ามกระทรวง ผลงานที่ออกมาเป็นผลงานโดยรวมไม่ได้เป็นผลงานของตน ขอให้ทุกคนมีความเชื่อมั่น
นอกจากนี้ ในเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 นายกฯ ยังระบุอีกว่า “ในวันที่ 24 ก.พ.ผมจะไปรับวัคซีนโควิด-19 ผมอยากเห็น ตื่นเต้นไม่เคยเห็นเหมือนกัน และผมจะฉีดคนแรกหรือฉีดตอนไหน ก็ต้องเป็นเรื่องของสถาบันวัคซีนกำหนดมาแล้วว่าจะให้ใครเป็นคนฉีด ไม่ได้กลัวว่าจะฉีดคนแรก บางคนบอกว่าทำไมไม่ให้ประชาชนฉีดก่อน ผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันไม่ได้มีสิทธิพิเศษ”