“ประยุทธ์” ยอมรับห่วงความขัดแย้งใน ครม.มากกว่าปัญหาพรรคการเมือง ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลยังร่วมมือแน่น ปัดตอบคดี กปปส. บอกไม่ก้าวล่วงอำนาจศาล เผยปรับ ครม.คิดเองไม่บอกใคร เหน็บสื่อถามที่แก่น อย่าถามกระพี้
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะนัดพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยหรือรับประทานอาหารหรือไม่ หลังเกิดปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาลว่า ตนไม่ขอตอบตรงนี้ เพราะเป็นเรื่องของพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคต้องไปว่ากัน ตนห่วงปัญหาความขัดแย้งภายในรัฐบาล ภายใน ครม.ของตนแค่นั้น เรื่องอื่นเป็นเรื่องพรรคการเมืองก็บริหารกันไป แต่ยืนยันว่าทุกพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลยังร่วมมือกับรัฐบาลและตนดีอยู่ทุกพรรค ทั้งพรรคใหญ่พรรคเล็ก ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีในวันที่ 24 ก.พ. ศาลอาญาจะมีการพิจารณาคดีแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ชุมนุมทางการเมืองปี 57 ซึ่งมีรัฐมนตรีในรัฐบาล 3 คน ได้เตรียมการไว้บ้างหรือไม่หากศาลพิจารณาว่ามีความผิด นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ตอบ เป็นเรื่องของศาลอาญา ตนบอกกี่ครั้งแล้วศาลจะตัดสินอย่างไรก็เป็นเรื่องของศาล ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ รัฐบาลเป็นฝ่ายบริหาร ไปก้าวล่วงไม่ได้ทั้งสิ้น ต่างฝ่ายต่างต้องไม่ก้าวล่วงซึ่งกันและกัน ฉะนั้นต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง หน้าที่ของทุกคนคือทำให้ประเทศชาตินี้ปลอดภัย สงบสุข มีเสถียรภาพ ได้รับความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ มีผลในด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุน ทุกคนต้องช่วยกันทั้งหมด
เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจริงกับรัฐมนตรี กปปส. ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเตรียมทาบทามบุคคลในการเข้ามารับตำแหน่งและจะมีการปรับ ครม.ทันทีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนยังไม่มี แต่ก็เป็นเรื่องของตนซึ่งคิดมาตลอดถ้าจะทำอะไรต่างๆ ตนก็ไม่พูดก่อนอยู่แล้ว โดยจะดูและติดตามผลงาน มันมีหลายอย่างที่ต้องปฏิรูปกันทั้งหมด วันนี้ความขัดแย้งตนคิดว่าเป็นการนำความขัดแย้งเก่าๆ มา ตนไม่ได้บอกผิดหรือถูก แต่บอกว่ามันต้องมาพิสูจน์ทราบให้ชัดเจน อะไรที่ถึงศาลก็คือศาล อะไรที่ต้องประเมินโดยตนในฐานะนายกรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐบาลก็จะประเมินเอง ซึ่งได้สั่งการไปหลายเรื่องทุกกระทรวง และทั้งหมดต้องไปสู่กลไกการบริหารของรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นอันเดียวกัน
“ฉะนั้น คำถามที่เป็นกระพี้ขอให้ลดๆ ลงหน่อย กระพี้รู้จักใช่หรือไม่ มันเป็นเปลือกนอกของต้นไม้ที่รุ่ยๆ ลงทุกวัน แต่แก่นมันอยู่ตรงไหน ถามตรงแก่นตรงนั้น และอะไรที่จะสร้างความขัดแย้งที่ยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง ผมคิดว่าขยายความไปก็เท่านั้น มันอยู่ในกระบวนการตรวจสอบได้ทั้งหมดอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะต้องทันที บางทีปัญหามันทับซ้อนหลายปัญหาด้วยกัน อย่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบก็แล้วกัน ตราบใดที่ยังไม่ได้ข้อเท็จจริงต้องมีการตรวจสอบทุกเรื่อง” นายกฯ กล่าว