หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า ทีมซักฟอกผู้อภิปรายทุกคนมีวุฒิภาวะ ขอให้มีสมาธิอย่าหวั่นไหว อย่าหลงกลแผนประท้วงเสียดสี ซัดนายกฯ ไม่แมน ถ้ารู้เห็นส่ง “แรมโบ้” ปิดปาก “เจี๊ยบ” ลั่นพร้อมอุ้มสู้ พ.ร.บ.คอมฯ
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายตามญัตติ และยืนยันว่า ผู้อภิปรายมีวุฒิภาวะโดยยึดญัตติ ข้อบังคับ และรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน ตนเองได้ให้กำลังใจผู้อภิปรายของพรรค ว่า ขอให้มีสมาธิอย่าหวั่นไหว และอย่าหลงกล หากมีการประท้วงเสียดสี อย่างเช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ถูกยั่วโมโหระหว่างการอภิปราย แต่ไม่เคยโต้ตอบ และยังยึดประโยชน์ของชาติและประชาชน ทั้งนี้ หลายเรื่องที่เราตั้งคำถามนายกรัฐมนตรี ก็ตอบไม่ตรงคำถามกับสิ่งที่เราพูด ทั้งในเรื่องวัคซีน การทุจริต เอื้อนายทุนและพวกพ้องตัวเอง
นายพิธา กล่าวอีกว่า สำหรับการอภิปรายในวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตเชิงนโยบาย การใช้อำนาจรัฐเอื้อนายทุน และพวกพ้องของตนเอง ทำให้ประเทศเสียหาย อีกทั้งในกรณีที่เมื่อมีคำถามออกไป เช่น เรื่องภาษี ค่าไฟฟ้าค่าน้ำฟรี เบี้ยวหรือไม่ นายกฯ และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ตอบโดยตรง แต่จะปิดปากด้วยกฎหมายแทน รวมทั้ง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่จะใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปิดปาก นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้งที่เป็นเอกสิทธิ์การอภิปรายของ ส.ส. ซึ่งตนได้ยืนยันกับนางอมรัตน์แล้วว่า จะยืนเคียงข้างลูกพรรค และจะให้ทีมกฎหมายต่อสู้ต่อไป แต่สิ่งที่จะทำได้เลยตอนนี้ คือ จะถามไปยังผู้เสียหายโดยตรง คือ นายกฯ ว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่ ส.ส.ทำหน้าที่ ถ้าไม่ผิดก็ตอบคำถาม ไม่ใช่ปิดปากฝ่ายค้าน ถ้าเห็นด้วยกับการกระทำของนายสุภรณ์ ก็ถือว่าไม่สง่างามชาติทหารกับสุภาพสตรีที่ทำหน้าที่
เมื่อถามว่า รัฐบาลเตรียมรวบรวมข้อมูลในการอภิปรายแจ้งความเอาผิด นายพิธา กล่าวว่า ไม่กลัว ไม่หวั่น และตั้งใจทำหน้าที่สู้เต็มที่ ซึ่งหัวหน้าพรรคและทีมกฎหมายยังอยู่ตรงนี้ พร้อมใช้กฎหมายต่อสู้ยืนยันในเอกสิทธิ์ ส.ส. ซึ่งหากมีการประท้วงอีกอย่างต่อเนื่อง ก็ขอให้ประชาชนรู้วาาเป็นเกมการเมืองแบบเก่า ดังนั้น ให้ประชาชนติดตามและเรียกร้องให้ประชาชนให้คะแนนพวกเราอยู่เขตไหนเขียนจดหมายไปเลยว่าหลังฟังหลักฐานและการอภิปรายแล้วเห็นด้วยหรือไม่ในเรื่องใด
เมื่อถามว่า พรรครอบคอบแค่ไหนในประเด็นเกี่ยวกับสถาบัน ได้มีการกำชับอะไรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ยังยืนยันว่า นี่คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐบาล ดังนั้น การจะพูดอะไรเรายึดตามญัตและข้อบังคับ โดยยืนยันว่า เรามีวุฒิภาวะด้วยเหตุด้วยผล และไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งวุฒิภาวะคนมาเป็นผู้แทนราษฎร เราไม่ตระหนกกลัว แต่จะทำหน้าที่เต็มที่ ส่วนการให้คะแนนในภาพรวมนั้น ก็ให้ประชาชนให้คะแนนเอง แต่ในนามหัวหน้าพรรคถือว่าเกินความคาดหวังที่ทุกคนทำงานอย่างหนัก
เมื่อถามว่า หากการอภิปรายเข้าเรื่องสถาบัน และมีคนข้างนอกจับจ้องเพื่อฟ้องร้องนั้น นายพิธา กล่าวว่า ย้ำว่า เราไม่ได้อภิปรายสถาบัน แต่อภิปรายนายกฯ รัฐบาล และวิธีปฏิบัติของรัฐบาบาล ส่วนการจะฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ แต่ก็ต้องถามกลับว่าเสียหายเพราะอะไร ซึ่งเราต้องสู้การฟ้องปิดปากกลั่นแกล้งหรือไม่ แต่ยืนยันเป็นเหตุเป็นผล มีวุฒิภาวะ และไม่ทำให้สถาบันเสียหายแน่นอน