นายกฯ โต้ “วิโรจน์” ส.ส.ก้าวไกล แค่พูดให้ดูเก่งมันง่าย แต่ทำงานจริงไม่รู้ได้หรือไม่ เตือนพูดอะไรไว้แล้ว ส่งผลกระทบทำให้วัคซีนมาช้า-ไม่ได้ตามตกลง ต้องรับผิดชอบ ขอให้เห็นใจคนทำงาน อย่าโยงเป็นการเมือง เผยข่าวดีไทยวิจัยวัคซีนได้เอง เริ่มทดลองฉีดในคน มี.ค.นี้ หลังทดลองกับหนูที่อินเดีย-สหรัฐฯ ได้ผลดี
เวลา 14.30 น.วันที่ 17 ก.พ. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงหลังการอภิปรายของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ว่าตนจะตอบเท่าที่จะตอบ เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด และตนเองก็ไม่ใช่นักโต้วาที ทั้งนี้ ในประเด็นการบริหารเศรษฐกิจและโควิด ตนรู้ความเดือดร้อนของประชาชนดี ถ้าอยู่ตรงนี้แล้วไม่รู้ก็คงเป็นไปไม่ได้ และอาจรู้มากกว่าเพราะมีข้อมูล ไม่ได้เปิดโซเซียลมีเดียอย่างเดียว แต่เอาข้อมูลทั้งหมดมาบริหารจัดการ ไม่ได้มีอำนาจแล้วสั่งทั้งหมดได้เลย แต่ฟังหมอและฟังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง พร้อมดูมาตรการตลอดจนการให้ได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด ไม่ได้ต้องการให้ช้าอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิดย้ำว่าเราทำได้ดีกว่าหลายประเทศ แต่เรายังเผชิญความเดือดร้อนกันอยู่ ซึ่งยืนยันจะทำให้ดีขึ้น พร้อมดูแลทุกภาคส่วน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เรื่องวัคซีนนั้นก็ต้องดูผลที่ออกมาด้วย โดยย้ำว่าเป็นการฉีดวาระฉุกเฉิน ไม่ได้ฉีดปกติเหมือนไข้หวัดใหญ่ จึงขอให้ระมัดระวังด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นนั้นกระทบโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทยประเทศเดียว แต่เราสามารถควบคุมได้เป็นระยะมาตลอด หลังจากนี้ก็ยังต้องแก้ไขกันต่อไป และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นั่งรอเฉยๆ และไม่ได้ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ดังนั้น ถ้าพูดกันแต่ปัญหาความขัดแย้งก็จะไม่เกิดอะไรใหม่ ซึ่งตนมีความเป็นห่วงในการพูดเรื่องวัคซีนจะทำให้เป็นปัญหา โดยไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาเป็นปัญหาการเมือง ดังนั้น ต้องระมัดระวังและรับผิดชอบกันด้วย ขออย่าให้มีปัญหา ถ้ามีปัญหาจำคำพูดตนไว้ด้วยว่าต้องรับผิดชอบ ถ้าอะไรที่ตกลงไว้แล้วไม่ได้ และสาเหตุมาจากตรงนี้ก็ต้องรับผิดชอบด้วย ต้องเห็นใจคนทำงานด้วย ไม่ได้ทำงานเช้าชามเย็นชาม แต่ต้องฟังทุกฝ่าย ส่วนวัคซีนจะช้าหรือเร็วเกินไปนั้นก็ให้ฟัง รมว.สาธารณสุขชี้แจง
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า ตนรับฟังทุกภาคส่วน อะไรทำให้เกิดปัญหาขอร้องอย่าพูดอีกเลยเวลานี้ วันนี้ตนตอบท่านด้วยความสบายใจ และยืนยันว่าทำดีที่สุดแล้วที่ทำได้ในเวลานี้ และอาจทำดีกว่านี้ถ้าสถานการณ์ดีกว่านี้ ขณะเดียวกัน หลายเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทยเวลานี้ โดยเฉพาะช่วงโควิด ซึ่งการพูดมันง่าย แต่เวลามาทำงานไม่รู้เป็นอย่างไร แต่พูดเร็ว ดูดี ดูเก่ง หากมาทำดูเองจะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ย้ำว่ารัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อเลือกวัคซีนที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขณะเดียวกัน วันนี้ได้รับข้อมูลมาว่าประชาชนคนไทยอยากฉีดวัคซีน 80% และมีอีก 10% ที่ไม่อยากฉีด ส่วนอีก 10% คือ คนที่ลังเลและไม่แน่ใจว่าผู้อภิปรายนั้นอยู่ในกลุ่มที่ไม่อยากฉีดหรือลังเลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องวัคซีนนั้นทุกประเทศไม่ได้สั่งจองมาวันเดียว แต่ทยอยเข้ามา โดยวันหน้าถ้าเราผลิตในประเทศได้เองก็จะดีขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวชี้แจงว่า มีการยืนยันจากสถาบันที่เกี่ยวข้องจากต่างประเทศ ระบุว่า การใช้หน้ากากอนามัยสามารถป้องกันได้เกิน 90.6% จึงต้องใช้ให้ถูกต้อง คนที่ไม่ชอบใส่ แม้ไม่รักตัวเองก็ควรจะต้องรักคนอื่นด้วย จึงต้องพึ่งพาหลายอย่างไปพร้อมๆ กัน และระหว่างรอก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ทำอะไรเลย สิ่งที่ทุกคนน่าจะร่วมยินดีไปด้วย คือ ประเทศไทยสามารถฉีดวัคซีนทดลองในมนุษย์ได้แล้ว โดยเฟสแรกจะเริ่มในวันที่ 1 มีนาคม 2564 นี้ โดยจะทดลองกับอาสาสมัครจำนวน 210 คน ซึ่งเป็นการพัฒนาวัคซีนของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยร่วมมือระหว่างสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข และองค์การเภสัชกรรม ซึ่งวัคซีนดังกล่าวจะเป็นวัคซีนเชื้อตายที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ผลข้างเคียงน้อย สามารถเชื่อใจได้ สามารถเก็บรักษาได้ง่าย โดยเราคาดหวังว่าจะสามารถผลิตได้ 25-30 ล้านเข็มต่อปี ถือเป็นอนาคตของประเทศไทย สำหรับเฟสสองจะทดลองกับอาสาสมัครเพิ่มอีก 250 คน โดยจะเริ่มได้ในเดือน เม.ย.-พ.ค. และเฟสสามซึ่งต้องไปทำกับประเทศที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก จะเริ่มได้ในช่วงปลายปีนี้ ถ้าสามารถทำได้จริงภายใน 1 ปีก็จะสามารถจดทะเบียนได้ จึงต้องขอชื่นชมคณะวิจัยวัคซีนของไทย นอกจากจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้ก็ยังจะสามารถสร้างรายได้ขึ้นมาอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ เราได้ส่งวัคซีนดังกล่าวไปทดสอบความปลอดภัยในหนูทดลองของประเทศอินเดียซึ่งพบว่าปลอดภัยดี รวมทั้งการทดสอบกับหนูในสหรัฐอเมริกาก็ปลอดภัย ถือเป็นข่าวดีมากสำหรับประเทศไทย นอกจากเราจะมีการนำเข้าวัคซีนจากประเทศจีนแล้ว เราก็จะมีวัคซีนที่ผลิตเองได้ในอนาคตอีก 3 แหล่ง คือ ทั้งซื้อการผลิตในโรงงานที่มีอยู่ และการวิจัยพัฒนา
“รัฐบาลต้องคิดในภาพกว้างทั้งหมด เพราะมีความยึดโยงกัน ทั้งเรื่องของสุขภาพ เศรษฐกิจ ทั้งในและนอกประเทศ ถ้าผมเอาตัวเลขมาพูดก็จะตีกันตรงนั้นตรงนี้ ยอมรับว่าเป็นการทำงานที่ยากมากพอสมควร แต่ผมก็พร้อมที่จะรับฟังและขอบคุณในคำแนะนำจากทุกคน” นายกรัฐมนตรีกล่าว