รมว.สธ.เผย ก.สาธารณสุขจะเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนในเดือนมิถุนายน ทยอยฉีดเดือนละ 5 ล้านโดสไปจนถึงปลายปี ชี้ไม่ได้ถือว่าล่าช้าแต่อย่างใด แต่ตอนนี้ที่ต้องพยายามจัดการวัคซีนโควิด-19 มาก่อนกำหนด ยันครอบคลุมประชาชนจำนวน 50 ล้านคนแน่นอน
วันนี้ (4 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข แสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ก้าวต่อไปการ์ดไม่ตก หลังโควิดระลอกใหม่” ในงานสัมมนา “พลิกสูตรวัคซีนสู้โควิด พลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย” ว่า ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ไม่ได้เกิดจากคนไทยการ์ดตก แต่มีคนลักลอบนำเชื้อโรคเข้ามา
สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจเนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยว ต้องเข้าใจว่าขณะนี้เป็นการสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งให้เกิดความมั่นใจ สร้างความพร้อม โดยจะต้องรักษาสมดุลให้เหมาะสม คือ การดูแลระบบธุรกิจไปพร้อมๆ กับความสามารถในการดูแลผู้ป่วย
นายอนุทินกล่าวว่า การจัดหาวัคซีนนั้นทุกประเทศดำเนินการเช่นกัน โดยก่อนอื่นขอให้นำเรื่องวัคซีนออกจากประเด็นการเมือง เพราะไม่มีใครกล้านำชีวิตของประชาชนมาเป็นหลักประกันเพื่อสร้างชื่อเสียงทางการเมือง พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนฟรีทุกคน
สำหรับเป้าหมายการฉีดวัคซีนของไทยอยู่ที่เดือน มิ.ย. 2564 จะทยอยฉีดเดือนละ 5 ล้านโดสไปจนถึงปลายปี โดยใช้วัคซีนของบริษัท แอสตราเซเนกา ที่เลือกให้บริษัท สยามไบโอไซแอนซ์ เป็นฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียน กำลังการผลิต 200 ล้านโดส ซึ่งน่าจะเป็นความภาคภูมิใจและสร้างความมั่นใจให้แก่คนไทย โดยไม่เกิดปัญหาสะดุดเหมือนกรณีวัคซีน 5 หมื่นโดสแรกที่สหภาพยุโรป (อียู) สั่งระงับการส่งออก โดยตอนนี้การจัดหาวัคซีนโดยรัฐบาลได้ทำสัญญากับแอสตราเซเนกาแล้ว 26 ล้านโดส และกำลังจะยืนยันการจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส รวมเป็น 61 ล้านโดส หลังจากนั้นจะจัดหาเพิ่มเติมให้ครอบคลุมประชาชนจำนวน 50 ล้านคนแน่นอน โดยจะพิจารณาวัคซีนของบริษัทอื่นๆ ด้วย
“ขอให้เกิดความมั่นใจและสบายใจได้ว่ารัฐบาลชุดนี้มีหน้าที่จัดหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนในประเทศไทย เป็นหน้าที่ของรัฐบาล คนไทยไม่ต้องเสียเงิน คนไทยทุกคนจะได้รับวัคซีนฟรี ในฐานะที่ท่านเป็นคนไทยที่เสียภาษี ท่านนายกฯ ให้นโยบายชัดเจนว่ารัฐบาลต้องจัดหาวัคซีนให้ประชาชน” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวอีกว่า เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ตลาดเป็นของผู้ขาย ถึงแม้การเจรจาซื้อวัคซีนเข้าก่อนจะสะดุดแต่ไม่กระทบต่อการป้องกันโรค และเราคำนึงถึงประสิทธิภาพ ไม่ใช่ราคาถูกอย่างเดียว เราไม่ได้หลุดแทรก ยังเดินตามไทม์ไลน์ ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน มั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็น Free Covid-19 ก่อนประเทศอื่น แต่ทุกคนต้องเข้าใจว่าวัคซีนไม่ได้ป้องกันติดเชื้อ แต่ช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรงหรือเสียชีวิต ส่วนผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแลอย่างรอบคอบ ขณะที่สถานการณ์ในประเทศ ถือว่าไม่รุนแรง สามารถควบคุมได้จึงไม่จำเป็นต้องเป็นหนูทดลองเรื่องวัคซีน แต่ก็ไม่ประมาท ขณะที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 2 หมื่นราย แต่รักษาหายแล้ว 1.4 หมื่นราย ถือว่าเรามีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง
“เมื่อเราได้รับวัคซีนแล้วไม่ใช่จะถอดหน้ากาก ยังต้องใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มัลต่อไปสักระยะหนึ่ง ทุกอย่างยังเป็นทฤษฎี การฉีดวัคซีนต้องระมัดระวังมาก เราไม่ได้ล่าช้า ศึกษามาหลายเดือนแล้ว อย่านำเราไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นที่มีการติดเชื้อวันละหลายหมื่นหลายแสนคน” นายอนุทินกล่าว