ผู้ช่วยรองนายกฯ นำทีมอนุตรวจสอบข้อเท็จจริงลุยพื้นที่จะนะ เก็บข้อมูลรับมือฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมรายงาน ครม.15 ก.พ.นี้ ลั่นไม่ได้มาจับผิด นายกฯ กำชับไม่ให้เกิดความแตกแยก
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.เวลา 10.00 น. ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงและปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต นำคณะอนุกรรมการฯลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็น และติดตามโครงการโดยได้พบปะประชาชนผู้สนับสนุนและผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว
สืบเนื่องมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จ.สงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” และได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด เพื่อติดตามโครงการดังกล่าว โดยจะนำผลการลงพื้นที่ของคณะอนุกรรมการฯเข้าสู่ที่ประชุมในวันที่ 22 ก.พ.นี้
นายประสานกล่าวว่า การลงพื้นทีติดตามตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการฯครั้งนี้ สืบเนื่องจากจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นโครงการจะนะจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องนำข้อมูลครั้งนี้ไปพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ดี แต่กระบวนการดำเนินการต่างๆ จะต้องเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ การลงพื้นที่วันนี้เพื่อรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงจากภาคส่วนราชการและภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะสร้างความรักความสามัคคีกลมเกลียวในพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา และพื้นที่อื่นๆ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้กำชับว่าทุกอย่างจะต้องถูกต้อง ชอบธรรมเป็นไปตามระเบียบและกฎเกณฑ์ ฉะนั้นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการที่ ร.อ.ธรรมนัสตั้งขึ้นมา 2 คณะ โดยคณะแรกจะดูเรื่องการดำเนินการให้เป็นตามมติ ครม. และตามระเบียบราชการ ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคณะที่ 2 จะต้องรับฟังความเดือดร้อนภาคประชาชนโดยตรง ซึ่งพื้นที่จะนะจะต้องมีการศึกษาสำรวจและวิจัยอย่างแท้จริงหากหน่วยงานไหนทำข้อมูลที่ถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องวิตกกังวล หากทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะตอบท่านได้ เพราะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ซึ่งจะมีการตรวจสอบทั้งข้อเท็จจริงทางกฎหมายระเบียบราชการ ผิดก็ว่าผิดใครจะรับผิดชอบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนี่คือนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องไม่ประสงค์สร้างความแตกแยกในพื้นที่
นายประสานกล่าวต่อว่า นายกฯ และรองนายกฯ กำชับโครงการใดที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดใดก็ตาม ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และส่วนราชการจะต้องดำเนินการตามกระบวนการที่ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย ดังนั้น การดำเนินการของอนุกรรมการฯ ขอให้สบายใจได้ ไม่ได้ต้องการมาจับผิดใคร แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเอกสารที่ดำเนินการไปแล้วในอดีต หากรายงานคลาดเคลื่อนก็จะต้องมีการชี้แจง ซึ่งผลการติดตามตรวจสอบทั้งหมดจะต้องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ด้วย ถ้าทุกอย่างดำเนินการตรงไปตรงมาโครงการก็จะเดินไปได้อย่างถูกต้อง แต่ถ้าข้อมูลบิดเบือน การดำเนินการในชั้นต่างๆ ก็จะคลาดเคลื่อนไปด้วย และกลายเป็นประเด็นที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ตอนนี้ได้มีการเตรียมวอร์รูมข้อมูลเชิงลึกและเตรียมความพร้อมที่จะตอบข้อชี้แจงในการอภิปรายครั้งนี้แล้ว
ขณะที่นายวรณัฏฐ์ หนูรอด รองผู้ว่าฯ สงขลา กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่เรากังวลกันมากว่าเมื่อใดจะตกผลึกทางความคิด เพราะเราไม่อยากให้ประชาชนเกิดความแตกแยกกันเอง โดยทางผู้ว่าฯ สงขลาได้มอบนโยบายชัดเจนว่าทุกส่วนราชการในจังหวัด พร้อมให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือไม่ว่าจะเป็นประเด็นไหนก็ตาม