“บิ๊กตู่” ร่วมประชาสัมพันธ์ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก แนะใช้เวลาช่วงโควิด-19 พัฒนาต่อยอด เมื่อสถานการณ์คลี่คลายไทยจะลุกและก้าวเร็วกว่าคนอื่น ชี้คนเยอะปัญหาเยอะเป็นธรรมดา ขอช่วยเสนอสิ่งดีๆ
วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่บริเวณด้านหน้า ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และคณะผู้บริหาร นำคณะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อนำเสนอผลงานภายใต้โครงการ BCG เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก “ผลงาน BCG : พลังเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” โดยนายกฯ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ในคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตนได้ให้ปรับอยู่ตลอดเวลาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ได้เน้นเรื่องของ BCG อยู่แล้วว่าต้องมีการส่งเสริมการผลิตขึ้นในประเทศไทย มีการตั้งโรงงาน ซึ่งคงใช้งบประมาณไม่สูงมากนัก เป็นเรื่องที่นักลงทุนไทยน่าจะลงทุนได้เพื่อแก้ไขเงินทุนสำรองที่มีอยู่ในระบบเยอะ เพราะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งไปด้วยเหมือนกัน ถ้าสามารถนำเงินในระบบออกมาลงทุนบ้างก็จะดี ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยกล้า เพราะโควิด-19 และอะไรต่างๆ ด้วย เพราะฉะนั้น เราน่าจะใช้เวลานี้ในการลงทุนของคนไทยเองด้วยกัน เอาเงินที่มีอยู่ออกมาลงทุน ปัญหาของเราคือการเงินของเราแข็งแกร่งเกินไป มีทุนสำรองเยอะ มีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินเยอะ เราก็พยายามแก้ปัญหาให้ถูกวิธีเท่านั้นเอง
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ขอบคุณทุกๆ คน ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่ต้องบอกให้ประชาชนได้รับทราบว่าเรากำลังเดินหน้าในเรื่องเศรษฐกิจ BCG ซึ่งมีหลายอย่างด้วยกันที่เกิดขึ้นจากการวิจัยและพัฒนาของเรา เป็นการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ หรือสิ่งที่อยู่ในระบบการเกษตรของเรา เพื่อเพิ่มมูลค่า ดีกว่าเผาทิ้ง วันนี้เราแก้ปัญหา PM 2.5 ด้วย แก้ปัญหาเรื่องก๊าซซีโอทู วันนี้กำลังดำเนินการและตนได้คุยทีมทำงานที่ทำร่วมกับทาง อว.มาด้วย ต้องมียุทธศาสตร์ออกมาให้ชัดเจนว่าจะมีกระบวนการอย่างไร มีกลไกตรงไหน และจะทำอย่างไรให้ประชาชนแต่ละพื้นที่จะได้นำไปใช้ประโยชน์ เพราะวันนี้เราจะทำอย่างไรเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรที่หลายคนไม่มีที่ดินทำกิน ก็จะมีอยู่ในกระบวนการตรงนี้ ในการที่จะผลิตออกมาเพื่อนำไปใช้ต่อในการตลาด วันนี้อยากให้พิจารณาในเชิงระดับพื้นที่ด้วยที่มี 6 ภาคด้วยกัน ที่มีความแตกต่างกัน เอาผลผลิตที่เหลือทิ้งมาทำใหม่ ซึ่งจะแก้ปัญหาในระดับโลกได้ด้วย ทำอะไรต้องต่อยอดให้เกิดเป็นพลังออกมาของประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หลายอย่างถือเป็นการเริ่มต้นของประเทศไทย คิดว่าเป็นวิธีการที่น่าจะถูกต้องในการปรับเศรษฐกิจของไทย เพื่อที่เราจะได้มีรายได้สูงขึ้น เป็นประเทศที่มีรายได้สูงอย่างที่เราตั้งเป้าไว้ ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ภาคเอกชน ส่วนราชการ นี่คือการทำงานของประเทศไทยซึ่งหลายๆ อย่างเกิดขึ้นสมัยนี้ ในสองรัฐบาลที่ผ่านมาและจะมีอะไรต่อยอดไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น สิ่งดีๆ มันเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย ส่วนที่ไม่ดีเราแก้ไขกันไปเท่านั้นเอง อุปสรรคเราก็แก้ไข ขณะนี้กำลังทบทวนให้มีการแก้ไขกฎหมายหลายตัว กฎหมายใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนได้เข้าถึงซึ่งก็ยากอยู่พอสมควร เพราะหลายอย่างต้องเข้าสภา วันนี้จึงอยากให้ใช้เวลาที่เรามีอยู่ในช่วงโควิด-19 พัฒนาเรื่องเหล่านี้ออกมา เมื่อถึงเวลาที่เปิดออกมาแล้ว โควิดเบาแล้วจะเป็นประเทศที่ก้าวเร็วกว่าคนอื่น ล้มแล้วลุกไว ลุกแล้วก้าวต่อได้แข็งแรง ส่วนปัญหาอื่นๆ เป็นธรรมดา คนเยอะก็ต้องปัญหาเยอะ คนมากในประเทศไทย ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนในสิ่งของที่เราผลิตขึ้นมาแล้ว ซึ่งมีตั้งหลายอย่าง ตนก็จะช่วยประชาสัมพันธ์และจะนำไปทดลองใช้ด้วย อย่างสารให้ความหวานแทนน้ำตาล และน้ำมันใส่ผม ไม่อย่างนั้นทรุดโทรม โดนสื่อทุกวันๆ ตนก็แก่ลงทุกวัน ขอบคุณทุกคน ขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์สิ่งที่ดีๆ