วันนี้ (2 ก.พ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า หลักการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ คือ การสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติถือเป็นสมบัติของเราทุกคน นอกจากนี้ เครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่เราต้องใช้เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อยู่ภายใต้ข้อกำหนดเดียวกัน มีความยุติธรรมและเท่าเทียม นั่นคือ การใช้มาตรการทางกฎหมาย สำหรับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็เช่นกัน ตนได้พยายามส่งเสริมการมีส่วนร่วมควบคู่กับการผลักดันการบังคับใช้กฎหมายเพื่อกำกับควบคุมการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประกาศใช้กฎหมายลำดับรองภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ไปแล้ว 29 ฉบับ และเตรียมประกาศเพิ่มอีก 13 ฉบับ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว
“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดังกล่าว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดผลักดันตามขั้นตอน เพื่อประกาศบังคับใช้กฎหมายลำดับรองทุกฉบับ ก่อนที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะเสียหายและไม่สามารถฟื้นคืนได้ และให้เร่งสำรวจทุกทรัพยากร หากจำเป็นต้องใช้กฎหมายในการกำกับ ควบคุม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการโดยด่วนต่อไป” รมว.ทส. กล่าว
ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวเสริมว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ยกร่างกฎหมายลำดับรอง จำนวน 13 ฉบับ โดยทุกฉบับได้ผ่านการกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยกฎหมายลำดับรองทั้ง 13 ฉบับ ประกอบด้วย การประกาศพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จำนวน 6 ฉบับ , การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน จำนวน 4 ฉบับ, การป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จำนวน 3 ฉบับ ซึ่งบางฉบับได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วและเตรียมการประกาศ และบางฉบับอยู่ในกระบวนการเสนอตามขั้นตอน ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะได้เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกาศบังคับใช้กฎหมายลำดับรองทุกฉบับต่อไป
นายโสภณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. ได้สั่งการให้กรมฯ เสนอแผนการศึกษาและสำรวจในพื้นที่ เพื่อเตรียมการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อคุ้มครองทรัพยากรและพื้นที่ที่มีความสำคัญเร่งด่วน รวมทั้งบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชนและผู้มีส่วนส่วนเสีย ให้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน