อดีตรองโฆษก ปชป. ย้ำ รธน.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งย้อนหลัง ทำ “เทพไท” พ้น ส.ส.ไม่เป็นธรรม ชี้สิ้นสภาพตัวแทนปวงชน ยังมีลุ้นเดินต่อบนเส้นทางการเมือง รอศาลฎีกาชี้ขาดคดีอาญา ยกฟ้องได้ไปต่อ ถ้าถูกฟัน จบชีวิตการเมือง
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ลงเฟซบุ๊กเรื่อง “เทพไทพ้น ส.ส.แล้วมีโอกาสกลับมาได้อีกหรือไม่” มีเนื้อหาระบุว่า “ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจกับนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ้นจาก ส.ส. ผมเคยให้ความเห็นในข้อกฎหมายเรื่องนี้ไว้ว่าเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม เพราะเป็นการย้อนหลังไปเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งบุคคลที่ผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้งมาโดยสมบูรณ์แล้ว แต่เมือมาตรา 101 (6) เขียนไว้อย่างนี้ก็ต้องเป็นตามนั้น
มีคำถามว่านายเทพไทมีโอกาสกลับมาสมัครสส.ได้อีกหรือไม่ เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 กรณี คือ คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ และคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
1. คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการตีความ คุณสมบัติและสถานะความเป็น ส.ส.ว่ายังคงมีอยู่หรือไม่ ซึ่งกรณีของนายเทพไทเป็นการตีความมีมาตรา 96 (2) 98 (4)และมาตรา 101 (6) โดยอาศัยคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายเทพไท 10 ปี เป็นเงื่อนไข ซึ่งคดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด แต่สถานะต้องหลุดตามรัฐธรรมนูญ
2. คดีทุจริตการเลือกตั้งของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 คดียังไม่ถึงที่สุดซึ่งหากศาลอุทธรณ์ภาค 8 หรือศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ สิทธิของนายเทพไทก็จะกลับมาสมบูรณ์ สามารถที่จะใช้สิทธิสมัคร ส.ส.ได้ปกติอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าศาลอุทธรณ์ภาค 8 และศาลฎีกาจะใช้เวลาพิจารณานานแค่ไหน แต่ในทางกลับกันถ้าศาลอุทธรณ์ภาค 8 หรือศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น คือ จำคุก และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ก็จะเข้าเงื่อนไขมาตรา 98 (11) กรณีทุจริตการเลือกตั้งจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
“ในช่วงเวลานี้จึงอาจถือเป็นช่วงเวลาพักร้อน พักรบทางการเมืองของนายเทพไท รอลุ้นสุดตัวกับคำพิพากษาในคดีอาญาว่าคำพิพากษาศาลฎีกาจะออกมาแบบใด ถ้ายกฟ้องก็ยังโลดแล่นบนเส้นทางการเมืองได้ต่อไป แต่ถ้ายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และรัฐธรรมนูญไม่มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ สภาก็คงไม่มี ส.ส.ชื่อเทพไท เสนพงศ์ ตลอดไป” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย