ปธ.วิปรัฐบาล ฮึ่มฝ่ายค้าน จี้กลับไปแก้ญัตติซักฟอกโยงสถาบัน ด้าน “ชัยวุฒิ” ชี้เหมือนข้อเสนอม็อบราษฎร ส.ส.รัฐบาลไม่ยอมแน่ ขณะโฆษก พปชร. เชื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นโอกาสดี รัฐมนตรีของพรรคได้พิสูจน์ตัวเองกับประชาชน มั่นใจสะท้อนผลงานรัฐบาลตลอด 2 ปี
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นำประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค โดยมีวาระหารือถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2564 นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณากฎหมายหลายฉบับ อาทิ ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
ภายหลังการประชุม นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวถึงการเตรียมความพร้อมต่อประเด็นการขอยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของพรรคฝ่ายค้าน ว่า ที่ผ่านมา รัฐมนตรีของพรรคทุกท่าน มีความตั้งใจทำงานเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ในห้วงของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการประคับประคองประเทศ ให้ผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
นางสาวพัชรินทร์ กล่าวว่า รัฐมนตรีทุกท่านมุ่งมั่นทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤตในขณะนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยที่รัฐบาลจะต้องถูกตรวจสอบ จากพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในนามของพรรคพลังประชารัฐ ขอย้ำว่า การพุ่งเป้าอภิปรายรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้รัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงมีโอกาสพิสูจน์ผลงาน และอธิบายให้ประชาชนได้รับทราบอย่างเป็นรูปธรรม และสะท้อนให้เห็นถึงผลงานการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลตลอด 2 ปี ที่ผ่านมา ให้เป็นที่ประจักษ์
“ดิฉันเชื่อมั่นว่า รัฐมนตรีทุกท่านมีข้อมูลพร้อมในการชี้แจงประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างมีเหตุผล เป็นที่ยอมรับของประชาชน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอภิปรายครั้งนี้ จะเป็นการอภิปรายในเชิงสร้างสรรค์ และมีคุณภาพ พร้อมข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผลถูกต้องบนพื้นฐานของความเป็นจริง” นางสาวพัชรินทร์ กล่าวย้ำ
ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล แสดงความกังวลถึงการใช้ถ้อยคำในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ใช้คำว่าโดยพฤติการณ์ เรื่องอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ระบุกันว่า บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ มองเหมือนเป็นวาทกรรมที่ต้องการ กล่าวให้ร้าย และไม่ควรใช้ภาษานำสถาบันมาเกี่ยวข้องในญัตติ โดยระบุนำสถาบันเป็นข้ออ้างเพื่อแบ่งแยกประชาชน แอบอ้างสถาบัน มาเป็นเกราะกำบังผิดพลาดความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคำเหล่านี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ก่อนนำมายื่น จึงอยากให้นำญัตติด่วนนี้กลับไปแก้ไข ลบคำที่เกี่ยวข้องกับสถาบันออกทั้งหมด เพราะหากไม่แก้ ก็จะเป็นปัญหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“ถ้ามีการพูดถึงเรื่องนี้สมาชิกฝ่ายรัฐบาลคงไม่ยอม และจะต้องทักท้วงตั้งแต่เริ่มต้น ถ้าเป็นไปได้ขอให้ตัดออก” นายวิรัช กล่าวย้ำ
นายวิรัช ยังเผยผลประชุมวิปรัฐบาล ถึงระยะเวลาการอภิปรายที่ยอมได้เพียง 52 ชม. ขอให้ฝ่ายค้านอยู่ในกรอบของการอภิปราย และยืนยันว่า ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล มีความพร้อม ไม่น้อยกว่า 270 เสียง
ขณะที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เลขานุการวิปรัฐบาล ย้ำว่า จากญัตติฝ่ายค้านต้องการเสนอถึงประเด็นเรื่องของการชุมนุมและข้อเสนอม็อบราษฎรที่กระทบต่อสถาบัน โดยข้อบังคับและแนวทางปฏิบัติ อะไรที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพาดพิงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะไม่ให้พูดอยู่แล้ว และตนรวมถึงสมาชิกทุกคน จะคอยดูแลไม่ให้ฝ่ายค้านผิดข้อบังคับ และไม่สามารถทำได้ที่จะนำสถาบันลงมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะท่านอยู่เหนือการเมือง ขออย่าดึงลงมาเลย ขอให้หยุด เพราะเราไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นในสภาแน่นอน