ผบ.ทบ.ตรวจเยี่ยมกำลังพลบริจาคโลหิต ให้สภากาชาดไทย ได้รับผลกระทบโควิดระบาด ทำขาดแคลน ย้ำ ทหารบริจาคต่อเนื่อง 3 เดือนครั้ง ขณะเดียวกัน ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์สื่อ หลังถูกถามกรณีกลุ่มคนพยายามทำโพลสำรวจยกเลิก ม.112
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล และจิตอาสา ที่ร่วมบริจาคโลหิต ตามโครงการ “จิตอาสาร่วมบริจาคโลหิตเพื่อชาติ” เพื่อสำรองไว้ช่วยเหลือประชาชนในเหตุฉุกเฉิน และภาวะขาดแคลนโลหิตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ตลอดช่วงเวลาที่เปิดโครงการตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา มีกำลังพลและจิตอาสาส่วนกลางและภูมิภาคบริจาคโลหิต กว่า 1 หมื่นนาย ล่าสุดนี้ได้โลหิตมากกว่า 2,600,000 ซีซี ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทหารบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง หลังมีวิกฤตโควิด-19 จึงมีแนวคิดให้ทหารบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง ทุก 3 เดือน ตามวงรอบของตัวเอง เพื่อให้มีโลหิตสำรองอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ประชาชนได้ร่วมบริจาคโลหิตอยู่แล้ว แต่เนื่องจากติดปัญหาความไม่สะดวกจากภาวะ covid-19 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่คนไทยช่วยกัน
พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยืนยันว่า กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของกองทัพ คือ การสนับสนุนและช่วยเหลือภัยพิบัติโควิด-19 โดยกำลังพลจะทำงานต่อเนื่อง ด้วยความทุ่มเทและเสียสละ ทั้งกำลังพลที่อยู่ใน state quarantine/จุดคัดกรองชั้นใน ตามแนวชายแดน ทหารช่าง สร้างโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งในหน่วยทหารเอง ก็พร้อมรองรับเป็นโรงพยาบาลสนามหากเหตุการณ์วิกฤตขั้น 2 และ 3 รวมทั้งสนับสนุนภารกิจตามนโยบายของรัฐบาล ทุกอย่าง จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ในขณะภารกิจ ในการสนับสนุนและช่วยเหลือปัญหาหมอกควัน PM 2.5 นั้น ได้กำชับตั้งแต่ไปตรวจเยี่ยมกองทัพภาคที่ 3 ต้นเดือนธันวาคม 63 ที่ผ่านมา ล่าสุด แม่ทัพภาคที่ 3 รายงานว่า ณ ปัจจุบันเมื่อเทียบกับปีที่แล้วสถานการณ์หมอกควันลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่จะต้องเฝ้าระวังนับจากนี้อีก 90 วัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่ต้องมีความเข้าใจและร่วมมือกับภาครัฐทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เชื่อว่า ทุกประเทศโดยเฉพาะเพื่อนบ้านก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาหมอกควัน ที่ผ่านมา เราประสานความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง อยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน จากกรณีมีข้อเรียกร้องของคณะก้าวหน้า และ กลุ่มราษฎร ยกเลิกการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเสร็จราชการแทนพระองค์ จนมีกระแสข่าวมีกลุ่มคนเตรียมจัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เพื่อนำไปเป็นผลักดัน พ.ร.บ.ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกมาตรา 112 เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
จากนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีมีคนบางกลุ่มเตรียมจัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเพื่อยกเลิกมาตรา 112 โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที
