“สุรชัย” ปรี๊ดแตก จวก “นิพิฏฐ์” เหยียดเพศ หลังประจานพฤติกรรม “พล่าน” แสดงความเห็น “เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” จี้ “บัวแก้ว” รุก “รัฐบาลญี่ปุ่น” ยกเลิกฐานะลี้ภัย “พุทธิพงษ์” เผยแจ้งความเอาผิด “แนวร่วม มธ.-ปวิน” แล้ว
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (16 ม.ค. 64) เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของนายปวิน (ชื่อเดิม สุรชัย) ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และลี้ภัยในประเทศญี่ปุ่น โพสต์ข้อความตอบโต้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ว่า
“อ้างว่าไม่รู้จักดิชั้น ไม่อยากพูดถึง แต่ก็เขียนซะยืดยาว สรุปรวมคือ เหยียดเพศดิชั้น นี่คือนักการเมือง (สอบตก) แห่งปี 2021 ก่อนหน้านี้ เขียนด่าเพนกวิน เอาอาหารหมาไปให้ตำรวจ ว่า เป็นการเหยียดมนุษย์ หยุดก่อนอีดอก มึงก็เหยียดเพศกูค่ะ เป็นนักการเมืองก็สอบตก อ้างว่าเป็นทนายที่รายได้ดีกว่าเป็นนักการเมือง แต่ไม่รู้กระบวนการของกฎหมายระหว่างประเทศ แถมจะทำเรื่องแจ้งกระทรวงการต่างประเทศให้สั่งญี่ปุ่นส่งดิชั้นกลับ ไม่แปลกใจที่คนคุณภาพต่ำแบบนี้ถึงเป็นนักการเมืองที่ล้มเหลว อยู่กับพรรคที่ล้มเหลว ที่ไม่เคยชนะการเลือกตั้งมาเกือบ 30 ปีแล้ว พังทั้งพรรค พังทั้งสมาชิกพรรค กระจอก
...อ้อ แล้วมาบอกด้วยว่า ดิชั้นแต่งตัวและประพฤติตนไม่สมอายุ ไม่สมเป็นครูบาอาจารย์ เหมือนคนประจำเดือนหมด อีดอก คงมีประสบการณ์จาก...ที่ประจำเดือนหมดไปแล้ว เลยรู้ว่าอารมณ์คนหมดประจำเดือนเป็นอย่างไร ส่วนที่บอกว่าแต่งตัวไม่สมอายุ ...โถ เงียบ ไม่มีคำตอบจากนักการเมืองสอบตกจากพรรค..นี้ สาธุ 999
ก่อนหน้านี้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “สถานะของผู้ลี้ภัย”
โดยระบุว่า “ผมไม่รู้จัก อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และไม่ประสงค์จะรู้จักเธอ แต่ก็พอจะรู้ว่า เธอมีความคิดทางการเมือง และรสนิยมการใช้ชีวิตไปทางไหน การใช้ชีวิตของเธอหากไม่กระทบกับสังคมโดยรวม เธอจะมีจริตไปทางไหนก็แล้วแต่เธอ เอาตามรสนิยมที่เธอชอบว่างั้นเถอะ ไม่ว่ากัน
วันก่อนเห็นเธอโพสต์รูปโชว์ก้นอยู่ ผมก็ได้แต่หายใจยาวกับอาจารย์คนนี้ วันดีคืนดี เธอก็เข้ามาคอมเมนต์เฟซบุ๊กของผมแบบไม่ได้รับเชิญ ผมนี่ใจหายแว๊บเลย แต่ก็ไม่ติดใจอะไรเธอ เนื่องจากเฟซบุ๊กผมเป็นพื้นที่สาธารณะ เธอจะคอมเมนต์อะไรก็แล้วแต่เธอ
แต่.. ผมว่าระยะหลังนี่เธอจะพล่านมากไปหน่อย อาจคิดถึงบ้านหรืออย่างไรก็ไม่รู้ เธอมักทำอะไรที่ไม่สมกับอายุ และไม่สมกับเป็นครูบาอาจารย์ อารมณ์เธอวูบวาบเหมือนคนกำลังจะหมดประจำเดือน
ผมทราบว่า เธอได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่น การเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองนี่ เขาห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองนะ แต่เธอก็แสดงความเห็นทางการเมืองอย่างร้อนแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะการเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมก็สงสัยว่า แล้วกระทรวงการต่างประเทศไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยหรือ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ท่านสบายดีอยู่หรือ
สัปดาห์หน้า ผมจะทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามเธอในฐานะผู้ลี้ภัยแสดงความเห็นทางการเมือง เพราะการแสดงความเห็นของเธอหลายครั้ง กระทบถึงความสัมพันธ์อันดีที่ไทยมีอยู่ยาวนานกับประเทศญี่ปุ่น ลองดูซิว่า ท่านรัฐมนตรีจะตอบว่าอย่างไร
อ้อ!! แล้วถ้าเธอไม่อยู่ในสถานะผู้ลี้ภัย ก็ทำเรื่องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเสียเลย ผมไม่ได้เป็น ส.ส.กับเขาหรอก จึงไม่มีโอกาสไปสอบถามในสภา ครั้นจะหวังพึ่ง ส.ส.ในสภา ก็อย่าพึ่งเขาเลย ทำในฐานะประชาชนดีกว่า ถามกันทางนี้แหละ ท่านรัฐมนตรีตอบมาอย่างไร จะนำมาแจ้งให้ทราบครับ
อ้อ!! อ.ปวิน นี่เธอเป็นผู้ชายนะ”
วันนี้เช่นกัน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ได้กำชับกองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ปท.) และกองกฎหมายฯกระทรวงดิจิทัลฯ ให้ดำเนินการติดตามตรวจสอบ ผู้กระทำความผิดโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทางสื่อสังคมออนไลน์และรวบรวมหลักฐานยื่นแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) อย่างต่อเนื่อง
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า โดยทางกองกฎหมายฯ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้แจ้งความเอาผิดผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ในช่วงวันที่ 4-15 ม.ค.2564 รวม 11 URLs เป็นผู้กระทำความผิดทาง Facebook 9 URLs และทาง YouTube 2 URLs พบชื่อบัญชีผู้กระทำความผิด อาทิ บัญชีเฟซบุ๊ก เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, บัญชี Pavin Chachavalpongpun (นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์) และยูทูปแชนแนล ชื่อ FAIYEN CHANNEL (วงไฟเย็น) ที่เข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 โพสต์พาดพิงสถาบันหลักของชาติ
ขณะเดียวกัน ปท.สรุปคำสั่งศาล ในช่วงเดียวกัน พบมีการกระทำผิด จำนวน 9 คำสั่งศาล รวม 136 URLs (รายการ) โดยมีทั้ง Facebook, YouTube, Twitter และเว็บอื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างต่อเนื่องจริงจัง...(จากไทยโพสต์ออนไลน์)
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ปัญหาที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย หรือที่เรียกกันว่า กระทรวงบัวแก้ว ไม่มีคำตอบกับสังคม และไม่สามารถจัดการกับ “ปวิน” ได้ ทั้งที่ถ้าใครเข้าไปดูเพจเฟซบุ๊กของเขา จะเห็นได้ชัดว่า ทำผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับคดีในประเทศไทย
ดังนั้น ความเห็นของ “นิพิฏฐ์” จึงน่าจับตามองอย่างยิ่ง ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะมีคำตอบที่ชัดเจน หรือ คำอธิบายอย่างไร หรือไม่
เพราะอย่าลืมว่า ประชาชนจำนวนมากที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รู้สึกเหมือนกันหมด คือ รับไม่ได้กับการกระทำของ “ปวิน” ที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันด้วยข้อมูลที่ไม่มีหลักฐาน จนดูเหมือนใส่ร้ายป้ายสีเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ดูเหมือนรัฐบาลญี่ปุ่นจะเงียบเป็นเป่าสาก ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เหมือนกับจงใจปล่อยให้ทำผิดต่อกษัตริย์ไทยหรือไม่?
ที่สำคัญ อย่าลืมว่า “ปวิน” คนนี้ไม่ธรรมดา เขามีสาวกอยู่หลักล้านในเพจ “ตลาดหลวง” ที่เขาเป็นผู้ดูแล ทั้งยังเป็นคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยด้วย ดังนั้น การที่เขาแสดงความเห็นอะไร โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ ย่อมมีผลไม่มากก็น้อยกับคนรุ่นใหม่ รวมทั้งการชุมนุมของ ม็อบคณะราษฎร 2563 ก็พบว่า มีคนเอาป้าย “ตลาดหลวง” มาโชว์ให้เห็นมาตลอด
เหนืออื่นใด ถ้าไม่ทำอะไร หรือทำอะไรไม่ได้ นี่คือ ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยอีกปัญหาหนึ่ง และการบ่อนทำลายสถาบันหลักของไทย จะไม่มีวันจบสิ้น จนกว่าทุกอย่างจะจบลง คนไทยคงหาความสงบได้ยาก ไม่เชื่อคอยดู!!!
