รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันโควิด-19 ยังไม่กระทบเลือกตั้งสภาเทศบาล-นายกเทศมนตรี ช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ ชี้ กกต.จังหวัดมีอำนาจประเมินเลื่อนเลือกตั้งเทศบาลได้รายพื้นที่หากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย ย้ำการระบาดยังอยู่ในระยะที่ 1 ไม่ถึงขั้นดึงอำนาจมาที่นายกฯ เตรียมยกสมุทรสาครเป็นโมเดลแก้ปัญหา
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ซึ่งอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะสามารถเลื่อนการเลือกตั้งออกไปได้หรือไม่ว่า หากจะเลื่อนก็สามารถทำได้เพราะกฎหมายให้อำนาจไว้ แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องระบุให้ชัดเจน เรื่องนี้ไม่เหมือนการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เอาคนทั้งประเทศมารวม ทั้งนี้ กกต.จังหวัดสามารถประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้หรือไม่ และกฎหมายได้ให้อำนาจในการเลื่อนการจัดการเลือกตั้งออกไปก่อนได้ หากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่เกิดการระบาด แต่อย่างไรก็ตาม กกต.ก็ได้ยืนยันว่าสามารถที่จะดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้เหมือนกับการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีมาตรฐานทางด้านสาธารณสุข ซึ่ง กกต.ได้ดำเนินการจัดการมาอยู่แล้ว เช่น เพิ่มหน่วยเลือกตั้งไม่ให้แออัด เว้นระยะห่าง และทำความสะอาด แต่ทั้งนี้การเลื่อนวัน จะต้องระบุวันที่ชัดเจน แต่สิ่งที่ห่วงคือกังวลว่าประชาชนจะออกไปใช้สิทธิน้อย
เมื่อถามว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ยังอยู่ในระยะที่ 1 ยังไม่ถึงขั้นรวบอำนาจให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารสถานการณ์ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็ประเมินอยู่ตลอดเวลาและตอนนี้ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ทั้งนี้ ศบค.ชุดเล็กได้ประเมินสถานการณ์ในทุกสัปดาห์ รวมถึงคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดก็มีการประเมินสถานการณ์ในทุกพื้นที่ หรือออกคำสั่งหรือข้อกำหนดในส่วนของตัวเองได้ ขณะที่ส่วนกลางทำหน้าที่ออกข้อกำหนดตามพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้คุ้มครองการทำงาน แต่ก็ยอมรับว่าแต่ละจังหวัดก็ยังมีข้อกังวลต่อมาตรฐานในการปฏิบัติ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรฐานเดียวกัน เพราะจำนวนจังหวัดที่ติดเชื้อถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 5 จังหวัด ควบคุมสูงสุดและเข้มข้น และ 28 จังหวัดควบคุมสูงสุด ซึ่งยังสามารถควบคุมดูแลได้อยู่ ทั้งนี้ เตรียมที่จะยกสมุทรสาครโมเดล เพราะสถานการณ์เริ่มที่จะคลี่คลายลง
นายวิษณุกล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึงหรือมีข้อเสนอมาตรการเคอร์ฟิว อย่างไรก็ตาม เวลานี้เพื่อนบ้านหลายประเทศมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สำหรัประเทศไทยเมื่อถึงเวลาหากจะต้องประกาศจะต้องรายงานให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ศบค.รับทราบ จากนั้นแต่ละจังหวัดก็จะไปพิจารณาประกาศในจังหวัดของตัวเอง