“ประวิตร” นั่งหัวโต๊ะถก กพร.ปช. สั่งเร่งช่วยเหลือ พัฒนากำลังคน คนพิการ ผู้มีบัตรสวัสดิการฯ ผลักดันมาตรการ “สร้าง ยก ให้” รองรับอาชีพชีวิตมั่นคง ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่จากโควิด-19
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงาน และประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรวงาน พร้อมหน่งงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานแนวทางการพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย s-curve สรุปเรื่องสำคัญ คือ ในปี พ.ศ. 2564-2566 จะดำเนินการนำร่องการพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ พร้อมทั้งรับทราบแนวทางการพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพ โดยจะได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2564 จากกองทุนส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 180 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินกู้ฉุกเฉิน, เงินกู้ปกติ และโครงการที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ และโครงการที่เสนอโดยสมาคมคนพิการอีกจำนวน 12 โครงการ เป็นเงิน 185 ล้านบาทเศษ รวมทั้งให้ทุกกระทรวงจัดพื้นที่การค้าขายให้แก่คนพิการ และกำหนดให้บริษัทที่รับจ้างเหมาบริการจะต้องมีการจ้างงานคนพิการตามสัดส่วนที่กำหนด
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาเห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.), การฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย s-curve รวมทั้งพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ให้ความเห็นชอบการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 11.4 ล้านคน ตามมาตรการ “สร้าง ยก ให้” ของกระทรวงแรงงาน เพื่อช่วยเหลือแรงงาน สร้างโอกาส และลดความเหลื่อมล้ำ
พล.อ.ประวิตรกล่าวแสดงความห่วงใยต่อแรงงานทั่วประเทศ รวมทั้งแรงงานคนพิการที่กำลังได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ covid-19 อยู่ในขณะนี้ จึงได้กำชับสั่งการให้ รง.เร่งให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแรงงานทุกประเภท และผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งการพัฒนาทักษะ ฝีมือแรงงาน และการส่งเสริมอาชีพแรงงานให้ตรงต่อความต้องการของตลาดแรงงาน และภาคอุตสาหกรรมทุกระดับทั่วประเทศ โดยจะต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง กรณีแรงงานที่เป็นผู้พิการ ขอให้ รง.ประสานงานกับ พม.ในการสนับสนุนการช่วยเหลือให้ผู้พิการได้รับประโยชน์สูงสุด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยภายใต้ชีวิตวิถีใหม่จากวิกฤตโควิด-19 และเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงต่อไป