เลขาฯ กกต.คาดสัปดาห์หน้ารับรองผล อบจ.ครบ 76 จว.ในส่วนไม่มีปัญหาร้องเรียน จับตา ครม.มีถกเลือกตั้งท้องถิ่นระดับอื่นหรือไม่ แจงปมสอบคณะก้าวหน้าทำตัวคล้ายพรรค ผู้ถูกร้องสามารถเข้าชี้แจงได้ ขณะที่ปม “ทักษิณ” ครอบงำยังอยู่ในชั้นรวบรวมข้อเท็จจริง
วันนี้ (7 ม.ค. ) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ว่าขณะนี้ กกต.ได้ประกาศรับรองผลไปแล้ว 29 จังหวัด ในส่วนของผู้สมัครบางคนที่ได้รับคะแนนสูงสุด แต่บางคนที่มีเรื่องร้องเรียนก็ยังไม่ประกาศ คาดว่าในสัปดาห์หน้า กกต.จะประกาศครบ 76 จังหวัดในส่วนที่ไม่มีปัญหาเรื่องร้องเรียน สำหรับความคืบหน้าการเลือกตั้งท้องถิ่นประเภทอื่น หากเป็นไปตามกรอบ 3 เดือนที่เคยคุยกันไว้ก็ต้องดูการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง หากเข้าที่ประชุม ครม.ให้มีการเลือกตั้งก็ดำเนินการตามกฎหมาย มาตรา 142 พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ส่วนจะเป็นการเลือกตั้งระดับไหนก็ต้องแล้วแต่ ครม. ทั้งนี้ หากภายในสัปดาห์หน้าไม่เข้าที่ประชุม ครม. เวลาที่เหลือก็จะกระชั้นเกินเพราะจะต้องมีการประกาศ มีการเตรียมการเลือกตั้ง หากมีการเลือกตั้งช้ากว่าเดือน มี.ค. จะต้องทำการแบ่งเขตใหม่ เพราะมีการประกาศเพิ่มลดของจำนวนประชากรใหม่
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคำร้องคณะก้าวหน้าทำตัวคล้ายพรรคการเมืองว่า ขณะนี้คณะกรรมการไต่สวนกำลังดำเนินการอยู่ ตามระเบียบสืบสวนไต่สวนของ กกต. คณะกรรมการมีเวลาประมาณ 30-40 วัน แต่หากไม่ทันก็สามารถขอขยายได้ ส่วนแกนนำคณะก้าวหน้าในฐานะผู้ถูกร้อง จะขอเข้ามาให้ข้อเท็จจริง ก็สามารถทำได้ เพราะปกติ กกต.ต้องฟังทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แล้ว และต้องรวบรวมพยานหลักฐานอื่นเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ส่วนอะไรที่จะเข้าข่ายลักษณะการกระทำที่คล้ายพรรคการเมืองนั้น ก็ต้องดูข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีการร้องยุบพรรคเพื่อไทยเนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำการในลักษณะชี้นำครอบงำพรรคนั้น ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง ซึ่งการพิจารณาเรื่องของการครอบงำ ส่วนตัวมองว่า ต้องดูว่าครอบงำนิติบุคคลหรือไม่ โดยดูจากกรรมการบริหารพรรค หรือรูปแบบการประชุมต่างๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และพฤติการณ์ต่างๆ ที่ต้องพิจาณาหลายๆ อย่าง ยืนยันว่าที่มีกระแสข่าวกรณีดังกล่าว กกต.เห็นว่าเป็นการครอบงำพรรคนั้นเป็นเพียงข่าวลือ เพราะในข้อเท็จจริงเรื่องยังมาไม่ถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง