“จรุงวิทย์” สั่งจับตาการเลือกตั้ง อบจ.ใน 5-6 จังหวัดเป็นพิเศษ หลังพบมีการแข่งขันดุเดือด มั่นใจข้อร้องเรียนทุจริตไม่กระทบการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง
วันนี้ (18 ธ.ค.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า กกต.เตรียมพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกและนายก อบจ.ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมาใช้สิทธิ ทั้งการจัดหน่วย อุปกรณ์และบัตรเลือกตั้งซึ่งขณะนี้ถึงช่วงที่เรียกว่าโค้งสุดท้าย มีทั้งความเข้มข้นรุนแรง แต่จริงๆ แล้วผู้สมัครส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน ส่วนที่เอารัดเอาเปรียบกันก็จะต้องถูกร้องเรียนซึ่งตอนนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามากว่า 100 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการเตรียมการซื้อเสียง การทำลายป้าย หาเสียงใส่ร้ายผู้สมัคร รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลาง โดยจะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ และหาข้อมูลว่ามีมูลเพียงพอที่จะรับไว้เป็นข้อร้องเรียนหรือไม่ จึงขอกำชับไปยังทุกฝ่ายให้ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าซื้อเสียง อย่าสัญญาว่าจะให้ หรือใส่ร้ายผู้สมัครคนอื่น ทั้งนี้กฎหมายมีการควบคุมเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม
“ตอนนี้ทุกเขตเลือกตั้งมีผู้ตรวจการเลือกตั้งทำหน้าที่ภายใต้สโลแกน 4 ประสานต้านทุจริต มีเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง รวมทั้งมวลชนของ กกต. เพื่อไม่ให้มีการทุจริตการเลือกตั้ง” พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว และว่าการที่ผู้บริหารของ กกต.ไปรณรงค์ในพื้นที่ต่างจังหวัดก็เชื่อว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิอย่างคึกคัก และดูแล้วค่อนข้างจะคึกคักในแต่ละจังหวัด มีทั้งป้ายหาเสียงและรถหาเสียง รวมทั้งการตั้งเวทีหาเสียงในหลายพื้นที่ที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนเข้าร่วมรับฟัง
เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง อบจ. ทาง กกต.ได้ประสานไปยัง ผบ.ตร.เพื่อให้ช่วยตัดกำลังตำรวจเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรที่จะเดินทางกลับบ้านไปใช้สิทธิ และเปิดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (18 ธ.ค.) ได้หารือกับทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานดูแลความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งเป็นพิเศษแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ 5-6 จังหวัดที่พบว่ามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเข้มข้น พร้อมประสานไปยังกรมการขนส่งทางบก, การรถไฟแห่งประเทศไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
ส่วนการที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ร้องว่ามีผู้มีอิทธิพลส่งคนลงไปข่มขู่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง อบจ. พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ในเรื่องเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือผู้ใดก็ตาม ถ้าเราทราบก็จะส่งผู้ตรวจการเลือกตั้งหรือเจ้าหน้าที่ กกต.เข้าไปพบเพื่อสอบถามรายละเอียดซึ่งที่เป็นข่าวก็ได้ไปพบทันทีตั้งแต่ตอนเริ่มต้นที่ได้มีการหาเสียง
สำหรับเรื่องร้องเรียนกรณีคณะก้าวหน้าปฏิบัติตัวเสมือนเป็นพรรคการเมืองนั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานข้อมูลของ กกต. คาดว่าจะใช้เวลาซักระยะในการพิจารณา เนื่องจากมีรายละเอียดของข้อกฎหมายในพระราชบัญญัติพรรคการเมือง และพระราชบัญญัติการเลือกตั้งท้องถิ่นที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่มีกระทบต่อการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะตามกฎหมายกำหนดไว้ว่าจะต้องประกาศรับรองผลภายใน 30 วัน เว้นแต่มีเรื่องร้องเรียนก็สามารถประกาศรับรองผลภายใน 60 วันได้ หากในระยะเวลาภายหลังพบว่าในการชี้มูลความผิดเกิดขึ้น ผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาล ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ส่วนการไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าหรือการเลือกตั้งนอกเขต พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าในการเลือกตั้ง ส.ส.ทำได้เพราะกฎหมายบัญญัติไว้ แต่ในการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ได้กำหนดไว้ เราจึงไม่สามารถทำได้ เพราะเราต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด