เมืองไทย 360 องศา
เชื่อว่านาทีนี้ ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน รวมไปถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะผู้สนับสนุนรายหลักกับพวก “ม็อบสามนิ้ว” คงนั่ง “ฝันหวาน” กันอย่างเต็มที่ว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณี “อยู่บ้านหลวง” หลังเกษียณอายุราชการไปแล้ว และถือว่าการเป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักทหาร ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ถือว่าเป็นการทำผิดระเบียบ และเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์
กรณีนี้มีเรื่องมาจากการที่มี ส.ส.ฝ่ายค้าน จำนวน 55 คน ยื่นเรื่องให้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กระทำผิดขาดคุณสมบัติหรือไม่ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2563
นั่นคือ พวกเขาเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับเงินหรือประโยชน์อื่นใดจากหน่วยราชการ นอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆ ในธุรกิจการงานปกติ อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง(4) และ (5) และมาตรา 160 ประกอบ
เอาเป็นว่า หากพิจารณากันแบบรวบรัดตัดความตามความเห็นของฝ่ายผู้ร้อง คือ ฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทย กับพวก ย่อมต้องสรุปว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผิดแน่ เพราะเมื่อพ้นจากการเป็นผู้บัญชาการทหารบกไปแล้ว ก็ต้องย้ายออกไป ยังอยู่บ้านพักหลวงแบบฟรีๆ ไม่ได้อีกต่อไป
ที่สำคัญ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ก็ย่อมทำให้บรรดารัฐมนตรีทั้งคณะ ต้องพ้นจากตำแหน่งไปโดยปริยาย และนอกเหนือจากนี้ ก็คือ หาก พล.อ.ประยุทธ์ พ้นไป ก็ทำให้หนึ่งในเงื่อนไขของ “ม็อบสามนิ้ว” หมดลงไปด้วย แม้ว่าผู้สนับสนุนหลักอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะออกมาส่งสัญญาณในทำนองว่า “เป้าหมายยังไม่จบ” นั่นคือ แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะพ้นไป หรือถูกขับไล่ออกไปแล้ว ก็ยังเดินหน้าต่อ เพราะยังมีข้อเรียกร้องที่เหลืออีก โดยเฉพาะการ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ม็อบสามนิ้ว ก็ยังต้องเคลื่อนไหวกันต่อไป
สำหรับการตัดสินชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกำหนดนัดวินิจฉัยและลงมติในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ แน่นอนว่า หลายคนกังวลว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ก็ยังพูดในหลักการทั่วไปว่า หากนายกฯพ้นไปคณะรัฐมนตรีก็ต้องพ้นไปด้วย แม้จะเป็นคำพูดแบบหลักการเรื่อยเปื่อย แต่เหมือนกับตอกย้ำทำให้ “เสียว” ได้เหมือนกัน
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากอาการ และท่าทีของเจ้าตัว และในคณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะในพรรคพลังประชารัฐ กลับมีท่าทีเฉยๆ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แม้ว่าภายในจะรู้สึกอย่างไรไม่รู้ แต่ท่าทีที่แสดงออกมาแบบเฉยมาก กล่าวย้ำแต่เพียงว่า “เคารพคำตัดสินของศาล” ไม่ว่าจะออกมาแบบไหนก็จะยอมรับ ซึ่งพิจารณาตามหลักการ ก็ถือว่าต้องเป็นแบบนั้น
แต่ในความหมายที่เขาต้องการสื่อออกมาให้สังคมได้เห็น โดยเฉพาะฝ่ายตรงข้าม ก็คือ “ให้เคารพกฎหมาย” และกระบวนการยุติธรรม เหมือนกับการ “แดกดัน” อีกฝ่ายอยู่ในที จากการเคลื่อนไหวที่พยายามฝ่าฝืนกฎหมาย อยู่ตลอดเวลา และมักกล่าวหาว่า “ไม่มีความยุติธรรม” มาตลอด
พรรคฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง “ม็อบสามนิ้ว” ต่างตีปี๊บโหมโรง โดยเฉพาะม็อบสามนิ้วต่างนัดหมายเคลื่อนขบวนไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 2 ธันวาคม บอกว่าไปฟังคำพิพากษา และหวังว่า จะได้รับความยุติธรรม ในความหมายก็คือ ต้องการ “กดดันศาล” ให้มีผลออกมาตามที่ฝ่ายตนต้องการนั่นเอง
แน่นอนว่า สำหรับพรรคเพื่อไทย ย่อมต้อง “ฝันหวาน” เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นไป เพื่อที่จะได้ “ส้มหล่น” เข้าทางตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาได้เตรียมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเอาไว้แล้ว ก็คือ นายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อนายกฯอันดับสามของพรรค แม้ว่าจะข้ามหัวคนอื่น แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะนี่คือ “สายตรงนายใหญ่” ที่ได้รับการเลือกแล้ว
แต่ที่ต้องบอกว่า น่าจะ “ฝันหวานจนเปียกเยิ้ม” กันอีกรอบ เพราะแม้ว่าหากพิจารณาจากการโหมโรงจนสร้างบรรยากาศให้เกิดความหวั่นไหวได้บ้างว่า “ลุงตู่” อาจล่องจุ๊น เพราะ “บ้านหลวง” เป็นแน่ หากพิจารณาจากท่าทีและความมั่นใจของเจ้าตัวแล้ว คงเชื่อว่า “ผ่ายฉลุย”
หากพิจารณาจากก่อนหน้านี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่เคยรื้อระเบียบสวัสดิการในกองทัพ รวมไปถึงทวงคืนบ้านพักนายทหาร ได้กล่าวถึง “ข้อยกเว้น” เอาไว้ นั่นคือ “ยกเว้นให้สำหรับอดีตนายทหารที่ยังทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมือง” ในความหมายก็คือ ยกเว้นไว้สำหรับนายทหารที่เกษียณไปแล้ว แต่ยังดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น ส.ว.ซึ่งในที่นี้อาจรวมไปถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยก็ได้ อีกทั้งยังมีเหตุผลประกอบในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของผู้นำ เป็นต้น
แต่เอาเป็นว่าให้รอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ไม่อาจก้าวล่วงได้ แต่เมื่อพิจารณาจากข้อยกเว้นดังกล่าว ก็ยังเชื่อว่าจะผ่านไปได้ แต่สำหรับม็อบสามนิ้ว หากออกมาแบบนี้ ก็คงบอกว่าไม่ยุติธรรม และเดินหน้าขับไล่ต่อไปอยู่ดี !!