“โสภณ” นำทีม กมธ.คมนาคม สภาฯ แถลงเห็นค้านต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ชี้ กทม.แจงค่าโดยสาร 65 บาท ปชช.รับได้ ฟังไม่ขึ้น จี้ ชี้แจงเพิ่ม แนะ แบกหนี้ 9 ปี แลกสิทธิ์เป็นของรัฐระยะยาวดีกว่า
วันนี้ (26 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม แถลงความคืบหน้าการประชุมกรณีการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ในที่ประชุมกมธ.วันนี้ กระทรวงคมนาคมและกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เข้าชี้แจงให้ข้อมูลรายละเอียดการต่ออายุสัมปทาน และเหตุผลที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติไม่ให้ผ่าน โดย กมธ.เห็นว่า เป็นข้อมูลที่ยังขัดแย้งและไม่ตรงกัน โดยเฉพาะประเด็นคำถามเรื่องอัตราค่าโดยสารที่สูงถึง 65 บาท ว่าใช้ฐานข้อมูลอะไรในการคิด กทม.ได้ชี้แจงโดยอ้างว่าประชาชนสามารถรับภาระนี้ได้ เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ทั้งยังพบปัญหาเรื่องค่าตั๋วร่วมที่ต้องมีการบูรณาการให้เป็นไปตามมาตรฐาน และลดค่าแรกเข้าของระบบคมนาคมทุกสายที่ไม่ต้องเสีย แต่กลับยกเว้นสายสีเขียว จึงสอบถามว่าทำไมถึงมีการจัดการที่ไม่เหมือนสายอื่น ประกอบกับ กทม.ได้ชี้แจงว่าไม่สามารถแบกรับภาระหนี้ได้ จึงต้องขอร่วมกับเอกชน ซึ่งความเป็นจริงระบบขนส่งสาธารณะ รัฐต้องแบกรับทั้งหมดและหาเงินทุนให้ กมธ.จึงสอบถามไปยังกระทรวงการคลังว่า เหตุใดรัฐไม่แบกรับภาระรถไฟฟ้าสายสีเขียว และหาแหล่งเงินกู้ให้ กทม. ซึ่งภายใน 9 ปี หากแบ่งเป็นปีละ 5 พันล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีเขียวก็สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ทำไมต้องนำไปให้เอกชนลงทุน ทำไมไม่ลงทุนเอง ทั้งที่เป็นสายหลักที่วิ่งผ่านใจกลางเมือง แต่ กทม.ยังชี้แจงกลับมาไม่ชัดเจน และยังเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วน
นายโสภณ กล่าวอีกว่า กมธ.ยังได้สอบถามไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่องการแก้ไขสัญญาที่เป็นสาระสำคัญ และเป็นไปตามคำสั่ง คสช. มาตรา 44 ให้เอกชนดำเนินการ 30 ปี ทำให้เหมือนเกิดสัญญาใหม่ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม กมธ.เห็นว่า ข้อมูลที่ชี้แจงยังไม่สมเหตุสมผลในการต่อสัมปทาน โดยเฉพาะผู้ชี้แจงทาง กทม.ได้ให้ข้อมูลมาไม่ครบถ้วนและไม่ตรงประเด็น กมธ.จึงยังเห็นว่าไม่ควรต่อสัญญา โดยจะรอให้ กทม.ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง
“เราอย่ายกของดีให้เอกชน รัฐต้องเป็นฝ่ายเก็บเอาสิ่งดีๆ ให้ประชาชน ส่วนของไม่ดีนั้นให้อยู่ที่ข้อตกลง ผมยังไม่เห็นว่าการต่อสัญญาสัมปทานครั้งนี้ ประชาชนจะได้ประโยชน์ มีแต่เป็นภาระให้ประชาชน การที่จะแก้ไขปัญหาโดยให้เอกชนแบกรับภาระหนี้ ถามว่าทำไมรัฐไม่แบกรับภาระหนี้เอง แล้วให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นของ กทม.” นายโสภณ กล่าว