“วิทวัส” เล็งจับมือฟิลิปปินส์-อินโดฯ ใช้เวทีผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ กดดันแก้กฎหมายทาส IUU ชี้ทำอุตสาหกรรมประมงตาย เผยสถิติรับร้องเรียน ตำรวจครองแชมป์ถูกร้องมากสุด รองมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
วันนี้ (26 พ.ย.) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมแถลงผลการดำเนินงานประจำปี 63 โดยนับแต่วันที่ 1 ต.ค. 62- 30 ก.ย. 63 มีเรื่องร้องเรียน จำนวน 4,948 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 3,059 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,889 เรื่อง ส่วนสถิติการรับเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ก่อตั้งสำนักงานปี 2543 ถึงปีงบประมาณ 2563 รับเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น จำนวน 50,489 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 48,598 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 96.25 พบประเด็นร้องเรียนเกี่ยวกับตำรวจสูงสุด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการไม่บันทึกการจับกุม ไม่อายัดตัวผู้ต้องหา ไม่สั่งฟ้อง ไม่ตามจับคนร้าย รองลงมาเป็นร้องเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ส่วนการก้าวสู่ปี 21 ผู้ตรวจการแผ่นดินมุ่งยกระดับและพัฒนางานด้านสอบสวนให้เทียบเท่าสากล มีการดำเนินงานอย่างรัดกุม รวดเร็ว ด้วยการใช้เทคโนโลยีให้สามารถรองรับระบบการแสวงหาข้อเท็จจริงได้หลากหลายมิติและทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ล่าสุด เปิดช่องทาง Line Official : @Ombudsman ซึ่งประชาชนสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ตลอด 24 ชม. และเปิดช่องทาง LINE Chatbot ที่เป็นระบบการตอบคำถามโดยอัตโนมัติที่จะส่งคำตอบข้อมูลที่เป็นสาระความรู้ได้ตลอด 24 ชม.เช่นกัน
พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ผู้ตรวจฯให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเชิงระบบ เช่น การแก้ปัญหาเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ของรัฐช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 การผลักดันยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายทางการเกษตร การแก้ไขปัญหาความปลอดภัยทางน้ำ โดยลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งข้อมูลข่าวสารแจ้งเตือนภัยธรรมชาติผ่านบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยได้รวดเร็ว และกำลังผลักดันให้มีเรือกู้ชีพที่เกาะพะงัน รองรับกรณีนักท่องเที่ยวบาดเจ็บสาหัส ต้องส่งตัวมารักษาที่เกาะสมุย รวมถึงการให้กรมเจ้าท่าติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่ท่าเรือ จูงใจให้ผู้ประกอบการติดเครื่องดังกล่าวในเรือและอบรมให้คนประจำเรือใช้เครื่องดังกล่าวเป็น เพื่อไว้ช่วยนักท่องเที่ยวทีประสบเหตุได้ทันท่วงที
“แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นว่ากำลังเป็นปัญหาทุกข์ของบ้านเรา คือ เรื่องการทำประมง ที่เป็นกิจการทำเงินเข้าประเทศมหาศาล ประชาชนรากหญ้าจำนวนมากก็ประกอบอาชีพนี้ แต่ปัจจุบันกำลังจะตาย เพราะกฎเกี่ยวกับการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ซึ่งกฎหมายนี้เป็นกฎหมายทาส ขณะนี้จำนวนมากของเรือประมงไทยไม่สามารถออกทะเลได้ เพราะกฎ IUU และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งซ่อมเรือ ทาสีเรือตายทั้งหมด ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงคิดจะทำเรื่องนี้ ผมจะแสวงหาข้อเท็จจริง โดยมีแนวคิดที่จะร่วมกับผู้ตรวจการแผ่นดินอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จัดทำเป็นข้อเสนอแนะต่อสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ เพื่อที่จะไปกดดันคนที่ออกกฎนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องที่รัฐบาลไปเสนอ เนื่องจากอาจทำให้ถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้า”
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ ผู้ตรวจฯได้มีการมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวดสโลแกนที่สะท้อนถึงหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 มีสโลแกนว่า “ตรวจสอบรัฐช่วยประชา แก้ปัญหาไม่ชอบธรรม”