“เจี๊ยบ ดาวแดง” จวก จนท.ไม่รับปากหยุดฉีดน้ำม็อบ เชื่อโบ้ยม็อบใช้กำลัง อัด 2 มาตรฐาน โวยถูกห้ามติดต่อแกนนำ ยันโหวตรับทุกร่าง แขวะ “ชวน” ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.20 น. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดฉีดน้ำก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่รับปากอะไรเลย และไม่ได้ยอมจะเจรจาหรือผ่อนปรนใดๆ ซึ่งตนคาดว่าเจ้าหน้าที่จะถอยร่นมาบริเวณด้านหน้ารัฐสภาเรื่อยๆ โดยอ้างว่า ม็อบใช้กำลัง ทั้งที่ความจริงแล้ว วิธีการดังกล่าวผิดหลักการสลายการชุมนุม ในสภาพที่ไม่ใช่กฎหมายพิเศษ ซึ่งตนและพรรคก้าวไกลห่วงความปลอดภัยของผู้ชุมนุม เพราะได้รับแจ้งมาเยอะว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนน้ำ และควันแก๊สเข้าบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะวิธีที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อมวลชนทั้ง 2 ฝั่ง สะท้อนความเป็น 2 มาตรฐานอย่างชัดเจน ขณะที่ฝั่งเสื้อเหลือง เจ้าหน้าที่เปิดทางให้ ทั้งยังมีการบริการอย่างดี โดยอ้างว่า ทางฝั่งนั้นไม่ได้ใช้กำลัง แต่อีกฝั่งถือว่าเป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุไปมากแล้ว ซ้ำยังมีการขู่ว่าจะใช้กระสุนยาง เพราะถือว่าเกินกว่าเหตุ และส่อเจตนาที่จะก่อกวนผู้ชุมนุมด้วย ดังนั้น หากมวลชนจะตอบโต้รุนแรง เราก็สามารถอ้างได้ว่ามันเกิดจากเจ้าหน้าที่ใช้กำลังก่อน ซึ่งตนมองว่าเจ้าหน้าที่ก็จะอ้างกลับมาว่า เพราะผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงก่อน
ทั้งนี้ ตนได้พยายามติดต่อกับแกนนำบางคน ว่าจะยอมอยู่หลังแบริเออร์ได้หรือไม่ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ขัดขวาง ดึงโทรศัพท์ไปหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ทำให้ไม่สามารถสื่อสารกันต่อได้
“ตนยันยันว่า เจ้าหน้าที่ต้องหยุดฉีดน้ำ และควันทั้งสิ้นก่อน เพราะเป็นการยั่วยุ ในขณะที่คนที่อยู่ในสภา นั่งห้องแอร์เย็นๆ แต่มวลชนข้างนอก เจอสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้ เราจะประชุมเพื่ออะไร เมื่อคนข้างนอกกำลังจะถูกยิงกระสุนยาง และมีคนบาดเจ็บ”
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะโหวตรับร่างทั้ง 7 ร่างเหมือนเดิม แต่หากร่างของไอลอว์ถูกปัดตกจริง ตนมีความเห็นว่า ในวาระ 2 และ 3 ยังมีเวลาอภิปรายหาข้อมูลเพิ่ม ก็น่าจะทำได้ ดังนั้น ย้ำว่า ต้องให้เกียรติเสียงของประชาชน อย่างไรก็ตาม ยังไม่รู้กำหนดการว่า วาระ 2 และ 3 นั้น จะเข้าที่ประชุมเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา
“ตั้งแต่เริ่มเปิดสภา วันนี้ตนได้ปรึกษากับประธานชวนบ้างแล้ว ในเรื่องดังกล่าว แต่ท่านก็ยังเป็นคนไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนเดิม หรือว่าแยแสกับอารมณ์ความรู้สึก และข้อเรียกร้องของประชาขนนับแสนนับล้านทั่วประเทศ”
