ไทยภักดีลั่นไม่เอา ส.ส.ร. ชี้หมิ่นเหม่ล้มล้างพระราชอำนาจ ให้ประโยชน์แต่นักการเมือง

“หมอวรงค์” ย้ำกลุ่มไทยภักดีไม่เอา ส.ส.ร. ชี้หมิ่นเหม่ล้มล้างพระราชอำนาจ ให้ประโยชน์แต่กับนักการเมือง เตรียมยื่นรายชื่อค้านแก้ รธน. เตือนความจำ ส.ว.พร้อมยื่นศาล รธน.ยับยั้ง

วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานไทยภักดี พระราม 5 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้ก่อตั้งกลุ่มไทยภักดี แถลงคัดค้านการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า กลุ่มไทยภักดีของคัดค้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวน 3 ฉบับ ทั้งของฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และไอลอว์ เนื่องจากเชื่อว่าถ้ามีการร่างแก้ไขโดย ส.ส.ร.จะหมิ่นเหม่ที่จะมีการล้มล้างพระราชอำนาจหรือสถาบันพระมหากษัตริย์โดยใช้รัฐธรรมนูญ และจะใช้ม็อบกดดัน อีกทั้งการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจะมีแต่ประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสิ้น ไม่มีประโยชน์ใดๆ ของประชาชน นอกจากนี้ กลุ่มไทยภักดีวิเคราะห์รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแล้วว่ามีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติอย่างชัดเจน สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่ผ่านมาได้ ทั้งนี้ กลุ่มของพวกเราไม่ขัดข้องหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา

“ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน พร้อมด้วยพี่น้ององค์กรเครือข่ายที่ได้มีการประสานงาน เราจะทำหนังสือยื่นไปยังประธานวุฒิสภา เพื่อเตือนความทรงจำถึง 1.3 แสนรายชื่อที่ค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้รับทราบถึงประโยชน์ของรัฐธรรมนูญปี 2560 ดังนั้นจึงจะต้องช่วยกันปกป้องพิทักษ์รักษา จึงขอย้ำนัดหมายพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. ที่บริเวณหน้ารัฐสภา เกียกกาย ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะมีการปะทะของมวลชน เพราะเท่าที่เราตรวจสอบอีกกลุ่มนัดหมายกันไว้ที่เวลา 15.00 น. แต่สำหรับกิจกรรมของกลุ่มไทยภักดีคาดว่าทุกอย่างจะเสร็จก่อนเที่ยงวันแน่นอน ปัญหาวันนี้เกิดจากนักการเมืองไม่ได้เกิดจากปัญหาอื่น ไม่ใช่ปฏิรูปที่สถาบันพระมหากษัตริย์” นพ.วรงค์กล่าว

นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า กระบวนการตั้ง ส.ส.ร.เราถือว่าได้เริ่มขึ้นแล้ว และมีเจตนาเพื่อยกเลิกหลักการและระบบการเมือง จึงถือว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น กลุ่มไทยภักดีจึงจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ยื่นเรื่องนี้ต่ออัยการสูงสุดเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้ระงับยับยั้งการกระทำดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น.จึงขอนัดหมายที่สำนักงานอัยการสูงสุด ชั้น 2 และขอฝากไปยังสมาชิกรัฐสภาว่าขณะนี้มีการข่มขู่ในการแก้ไขธรรมนูญว่าบ้านเมืองจะไม่สงบสุข แต่ขอให้สังเกตดูว่าการข่มขู่ต่างๆ เหล่านี้เกิดจากคนที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด พวกที่แพ้แล้วไม่รู้จักแพ้ ตนจึงอยากเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภายึดมั่นในหลักการของประเทศ อย่าไปหวั่นไหวกับขบวนการข่มขู่ของพวกที่แพ้แล้วไม่รู้จักแพ้ พวกทำผิดแล้วไม่รู้จักผิด ถ้าท่านหวั่นไหวไปดำเนินการตามคำขู่อาจหมิ่นเหม่จะนําไปสู่กลียุคของสังคม แต่ถ้ายึดมั่นในหลักการท้ายที่สุดสังคมจะกลับมาสู่ความสงบสุข