xs
xsm
sm
md
lg

พณ.ยันรัฐจริงใจตามทวงเงิน อคส.2 พันล้าน ทุจริตถุงมือยาง ลั่นเอาผิดไม่ไว้หน้าใคร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ (แฟ้มภาพ)
“จุรินทร์” ตอบกระทู้สด พท. ยันรัฐบาลจริงใจตามทวงเงิน อคส. 2 พันล้าน กรณีทุจริตถุงมือยางคืน ย้ำใครเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา ลั่นหากเป็น จนท.รัฐถูกดำเนินการทางวินัย ยันไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น

วันนี้ (11 พ.ย.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาถามนายกรัฐมนตรี กรณีการทุจริตถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ว่ากรณีนี้มีอดีตสื่อมวลชนชื่อ “เสี่ย อ.” ไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ประมาณ 2 เดือน แล้วก็มาขายถุงมือยางให้กับ อคส.ถึง 500 ล้านกล่อง มูลค่าแสนกว่าล้านบาท ทั้งๆ ที่ อคส.นั้นมีหน้าที่ดูแลเกษตรกรและประชาชน แต่เรื่องที่ประชาชนเขาเดือดร้อนกลับไม่ทำ นอกจากนี้ การที่ อคส.จ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าถึง 2 พันล้านบาท แต่กลับไม่มีหนังสือค้ำประกันใดๆ ให้กับ อคส.เลย แสดงว่ามีการวางแผน มีการเตรียมการ ส่อไปในทางทุจริตใช่หรือไม่ จึงอยากถามว่าสัญญาเพียง 4 หน้ากระดาษ และไม่ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดเลย แต่จ่ายเงินมัดจำไปแล้ว 2 พันกว่าล้านบาทนั้น ทำให้ อคส.เสียหายหรือเจ๊งได้เลย นายกฯ จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เพราะท่านประกาศจะจัดการกับเรื่องทุจริต และอดีตรักษาการ ผอ.อคส.คงไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน ท่านปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพราะเกิดการทุจริตมาเป็นเดือนแล้วแต่ท่านนายกฯ ยังเฉยอยู่เลย

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้มาตอบกระทู้แทน ชี้แจงว่า ตนมีความเห็นเช่นเดียวกับนายยุทธพงศ์ ที่อดีตรักษาการ ผอ.อคส.ไปทำสัญญาทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจ ส่อไปในทางทุจริต โดยทันทีที่ทราบเรื่องได้มีการหารือกันที่ทำเนียบรัฐบาล และนายกฯ มีคำสั่งย้ายอดีตรักษาการ ผอ.อคส.ไปประจำสำนักนายกฯ ในทันที นี่คือสิ่งแรกที่ดำเนินการ และเป็นการพิสูจน์ว่านายกฯ และกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญต่อการจัดการกับการทุจริต จากนั้นบอร์ดของ อคส.มีการประชุมและสั่งให้ระงับโครงการ ขณะเดียวกันยังตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้น รวมถึงไปแจ้งความดำเนินคดีต่อดีเอสไอ และ ปปง.เพื่อขอให้ตรวจสอบและระงับเส้นทางการเงิน พร้อมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบว่าขณะนี้ ป.ป.ช.มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนแล้ว หากผลการตรวจสอบพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องในทางมิชอบ รัฐบาลจะดำเนินการโดยเคร่งครัดและไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า กรณีนี้เงิน 2 พันล้านบาท ได้ออกจาก อคส.ไปอยู่ที่คู่สัญญาเรียบร้อยแล้ว เงินจ่ายออกไปจนถึงขณะนี้ 2 เดือนเศษแล้ว นายกฯ จะตามเงิน 2 พันล้านบาทนี้อย่างไร จะยับยั้งอย่างไร เพราะถ้าตามเงิน 2 พันล้านบาทนี้คืนมาไม่ได้ อคส.จะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง จะเป็นหนี้ขึ้นมา 2 พันล้านบาท นอกจากนี้ คนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นได้ดำเนินการต่อใครบ้าง และคืบหน้าอย่างไร

นายจุรินทร์ชี้แจงว่า เราพยายามตามเอาเงินกลับคืนมาให้กับ อคส.ให้ได้ แต่โดยลำพัง อคส.ไม่มีอำนาจโดยตรงในการเข้าไปตรวจสอบบัญชี เส้นทางการเงิน และสั่งระงับการดำเนินการใดๆ ได้อย่างเต็มที่ จึงจำเป็นต้องไปแจ้งต่อดีเอสไอ ถ้าดีเอสไอชี้ว่ามีมูลก็ขอให้ ปปง.สั่งระงับเส้นทางการเงินได้ แต่เมื่อแจ้งต่อดีเอสไอแล้วก็ได้รับแจ้งว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบอดีตรักษาการ ผอ.อคส. แต่เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงได้มีการไปร้องต่อ ป.ป.ช. และมีการระงับเส้นทางการเงินบางส่วนแล้ว เรื่องนี้เป็นการดำเนินการภายใน จึงไม่ใช่สิ่งที่ตนจะมาแจ้งในที่ประชุมสภาให้รับทราบได้ แต่ไม่ว่าผลสอบสวนจะไปถึงใครอย่างไรนั้นจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และถือว่าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ถ้าเป็นกรณีการทุจริต ใครที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และ อคส. พร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการตรวจสอบทุกประการ

นายยุทธพงศ์กล่าวด้วยว่า วันนี้เงิน 2 พันล้านบาทยังอยู่หรือไม่ นายกฯ จริงใจกับนโยบายปราบทุจริตหรือเปล่า และกระทรวงพาณิชย์ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงระดับกระทรวงด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ชี้แจงว่า เป้าหมายสูงสุดคือต้องเอาเงินคืนมาให้ได้ และใครที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาด้วย หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะดำเนินการทางวินัยด้วย นอกจากนี้ยังมีกระบวนการในการเรียกร้องค่าเสียหาย จะไล่เบี้ยจนกว่าจะได้เงินของ อคส.กลับคืนมา ทั้งนี้ รัฐบาลมีความตั้งใจจริงที่จะจัดการกับเรื่องนี้ หากเป็นกรณีทุจริต รัฐบาลจะไม่ละเว้นอย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น