ผบ.ทบ.แจงโอกาสรัฐประหารติดลบ ยันมีทางออก การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ชี้ม็อบราษฎรเมื่อวานถ้าหลุดแนวกั้นตำรวจ-ทหารต้องป้องกันเพราะไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น ย้ำประนีประนอม แต่มีกลุ่มสร้างความรุนแรงจน จนท.เจ็บ เหตุม็อบไม่สกรีนคน
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่เป็นเงื่อนไขให้บางฝ่ายออกมาเรียกร้องให้กองทัพทำการรัฐประหาร โดยขอให้ผู้สื่อข่าวสนใจข่าวภารกิจงานด้านการทหาร เมื่อถามโอกาสการรัฐประหารยังเป็นศูนย์อีกหรือไม่นั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า “ติดลบ”
เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่มีทางออก พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวย้ำว่า “มี” ได้ย้ำไว้เสมอว่าการเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง หากทุกคนมีสติและมองกระจกให้รอบด้านว่าควรจะทำอะไร เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดูแลอะไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ตนก็ได้รับคำสั่งว่าให้ดูแลตามแนวชายแดนโดยเฉพาะการป้องกันเรื่องโควิดก็รับคำสั่งมาตามภารกิจหน้าที่ของตน
เมื่อถามว่าในสถานการณ์แบบนี้ บทบาทของทหารควรเป็นอย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า บทบาทของทหารก็เป็นไปตามที่ได้ระบุไว้ ทั้งเรื่องงานชายแดน การดูแลประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน
สำหรับเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎรเมื่อวันที่ 8 พ.ย.นั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ไปไม่ได้ไปในลักษณะการควบคุมฝูงชน เพราะอยู่นอกเครื่องแบบอยู่ด้านหลังแนวตำรวจ และในฐานะของฝ่ายความมั่นคง สำหรับสถานการณ์เมื่อวานมุ่งไปสู่สำนักพระราชวัง ศาลหลักเมือง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ วัดพระแก้ว ไม่มีใครรับประกันว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าหลุดจากแนวตำรวจไป ทหารก็ต้องป้องกัน ที่ผ่านมามีการคุยกันว่าจะชุมนุมด้วยความสงบ สันติ แม้มีการกระทำผิด พ.ร.บ.การชุมนุม แต่ ตร.ประนีประนอม ไม่ได้ดำเนินคดี
ผบ.ทบ.ย้ำว่า ทหารอยู่บริเวณหลังตำรวจ หากมีมวลชนหลุดแนวตำรวจออกมาก็จะเป็นหน้าที่ของทหารที่จะต้องป้องกันเพราะในส่วนของการ์ดที่ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมก็คุยกันแล้วว่าเป็นการชุมนุมอย่างสงบและสันติ เราพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรง ทำกลุ่มผู้ชุมนุมและความมั่นคงได้คุยกันมาตลอด ถึงแม้การชุมนุมดังกล่าวจะผิด พ.ร.บ.การชุมนุม แต่เจ้าหน้าที่ก็ประนีประนอม ไม่ได้ดำเนินคดีทั้งหมด ใครที่ทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการเฉพาะรายบุคคลในส่วนของการ์ดที่ดูแลรักษาความปลอดภัยก็ต้องยอมรับว่าเขาพยายามเจรจากับตำรวจในสิ่งที่เขาอยากจะกระทำ และยืนยันในเรื่องของการชุมนุมโดยสงบและสันติ
แต่ในขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่ามีกลุ่มคนซึ่งตนได้ย้ำไว้เสมอว่าอย่าให้เกิดความรุนแรงต้องควบคุมให้ได้ ถ้าเกิดความรุนแรงเมื่อไหร่ ประเทศชาติก็จะถอยลงไปอีกที เมื่อวานหากดูจากคลิปหรือข้อมูลต่างๆ ทหารที่ออกไปส่วนนั้นก็คือช่วยไปดูแลเจ้าหน้าที่อยู่ข้างหลัง หากมีอะไรขึ้นมาทหารจะได้ช่วยตำรวจและประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทหารตรงนั้นกลับได้รับบาดเจ็บเสียเองและที่ได้รับบาดเจ็บก็เพราะว่ามีกลุ่มที่ต้องการสร้างความรุนแรง
“หากเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยไป พวกที่ต้องการสร้างความรุนแรงก็เข้าไปได้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้สกรีนคน ซึ่งเราก็เห็นแล้วในคลิปว่าเขาเตรียมสิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับประทัดที่มีไฟจุด ขว้างข้ามรถบัส ผมถามว่าหากปล่อยไปจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา หากปาเข้าไปในศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว เกิดความเสียหาย ใครจะออกมายืนรับผิดชอบ แล้วความรู้สึกของคนทั้งประเทศจะเป็นอย่างไร นี่คือสิ่งที่เราต้องช่วยกัน ในส่วนของเจ้าหน้าที่เขาพร้อมอยู่แล้วเพราะอุทิศตนและยอมรับอยู่แล้ว แต่อย่าไปเอาประเด็นนั้นมาเป็นความขัดแย้ง ขอให้มองว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อส่วนรวมและประเทศชาติจะเกิดอะไรขึ้น หากตำรวจไม่ทำตรงนั้น เพียงแต่ว่าสุดท้ายแล้วถือเป็นเรื่องดีที่สุดท้ายแล้วสามารถเจรจากันได้ว่าทำได้แค่ไหน
เมื่อถามว่าจะสามารถยอมรับได้ขนาดไหนหากมีการบุกรุกพื้นที่เขตพระราชฐานในโอกาสหน้า พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า เขตพระราชฐานมีลักษณะคล้ายกับบ้าน เราก็ไม่ต้องการให้ใครมาบุกรุก ทุกคนก็รักบ้านตัวเองและครอบครัวตัวเอง สิ่งที่ตนพยายามก็คืออย่าให้เกิดความรุนแรงเพราะสถานการณ์ตอนนี้เรากำลังดีขึ้นจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ประเทศไทยทำได้ดี และที่ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมกองกำลังชายแดนก็คือไปเน้นย้ำเรื่องนี้ไม่ให้การ์ดตก