“แรมโบ้อีสาน” ถามดังๆ นายกฯ เปิดไฟเขียวหาทางออกประเทศด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งกรรมการสมานฉันท์แล้วจะเอาอะไรอีก ซัดพวกไล่ให้ลาออก หากออกแล้วถึงทางตันจะยุบสภาเลือกตั้งใหม่หรือไม่ แต่หากม็อบจะเลยป้ายจากนายกฯ ไปต่อถึงสถาบันฯ คงยอมไม่ได้แน่นอน
วันนี้ (27 ต.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อหาทางออกประเทศตามรัฐธรรมนูญ มาตรา165 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือนักประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ ยินดีรับฟังและเสนอทางออกให้ประเทศ ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการลาออก ว่าตามระบบรัฐสภาแล้วหากนายกฯ ลาออกจะเป็นอย่างไร และการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีกรอบเวลาที่ชัดเจน แต่ว่าม็อบนอกสภากลับไม่ได้ฟังหรือไม่ได้สนใจ
“นายกฯ ได้เสนอทางออกด้วยการสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่มีการเสนอญัตติเข้าที่ประชุมสภา อยากแก้อะไรแก้เลย ยกเว้นหมวด 1 และหมวด 2 แต่หากผู้ชุมนุมต้องการให้ยึดญัตติของภาคประชาชน ต้องเสนอตามขั้นตอนของสภาเพราะเราปกครองแบบประชาธิปไตย โดยมีสภาทำหน้าที่ แต่ถ้าม็อบจะบอกว่าไม่เอา 6 ญัตติเลย นั่นแสดงว่าไม่เข้าใจระบบรัฐสภา”
ส่วนประเด็นที่ให้นายกฯ ลาออกนั้น นายสุภรณ์กล่าวว่า นายกฯ ได้พูดชัดว่า หากนายกฯ ลาออก ครม.ก็พ้นไป และนายกฯ ยังจะเป็นนายกฯ รักษาการจนกว่าจะมีนายกฯ ใหม่เพื่อไปฟอร์มรัฐบาลใหม่ ก็อยากถามกลับไปว่า หากนายกฯ ลาออก แต่ยังใช้กติกาเดิมในการเลือกนายกฯ โดยมี ส.ว.250 คนด้วย ผู้ชุมนุมก็จะไม่ยอมรับอีก บ้านเมืองมันก็ถึงทางตัน เพราะยังไงเรามีรัฐธรรมนูญ เราต้องปฏิบัติตามเนื่องจากเรายังไม่ได้แก่รัฐธรรมนูญ
“เท่าที่ผมกรองข่าวมา ไม่ว่าการแก้รัฐธรรมนูญ หรือให้นายกฯ ลาออก ก็ไม่น่าจะทำให้บรรดาผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมลง เพราะเป้าหมายคงไม่ได้อยู่ที่ตัวนายกฯ รัฐบาล หรือรัฐธรรมนูญ แต่เป้าหมายน่าจะเลยเถิดไปถึงสถาบันเบื้องสูง จึงอยากขอเตือนว่าหากน้องๆ จะเลยป้าย ไม่จอดที่นายกฯ หรือรัฐธรรมนูญ ก็คงไม่มีใครยอม ผมคนหนึ่งละที่ยอมไม่ได้”
นายสุภรณ์กล่าวว่า ในระหว่างนี้อยากจะให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมอย่างเด็ดขาด เพราะรัฐบาล รัฐสภา กำลังหาทางออก และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์จากทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกประเทศ ดังนั้น หากม็อบไม่มีวาระซ่อนเร้น มีความจริงใจ ก็ต้องช่วยกันหาทางออกอย่างสันติวิธีเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป
“พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ผิดอะไร แต่ก็ยินดีรับฟังและเสนอทางออกให้ นี่แหละคือนักประชาธิปไตยตัวจริง ถ้าเป็นฝ่ายค้านหรือคนอื่นจะยอมแบบนี้หรือไม่ เพราะในอดีตนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เคยฟังเสียงประชาชน ตรงกันข้าม แตกต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ที่ใจกว้างพร้อมจะให้มีการแก้ไขตามข้อเรียกร้องที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย และเดินตามกติกาในระบบรัฐสภา ไม่เคยใช้อำนาจเผด็จการทางรัฐสภาเหมือนในอดีต” นายสุภรณ์กล่าวทิ้งท้าย