มท.1 ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานสภาผู้แทนฯ ตอบข้อหารือ ส.ส.ภาคใต้ ย้ำยุติกระบวนการกำหนดให้ “วันสารทเดือนสิบ” เป็นวันหยุดราชการ ยกผลประชุม 9 หน่วยความมั่นคง-ส่วนราชการ คงจำนวนวันหยุดราชการประจำปีไว้เช่นเดิม ให้ยุติดำเนินการ แต่ให้อำนวยความสะดวกให้ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างที่นับถือศาสนาพุทธได้ร่วมงานทุกปี เปิดหนังสือ สปน.ไม่เห็นด้วย ชี้ปัจจุบันราชการมีวันหยุดมากพอสมควรแล้ว แม้ สมช.-ก.พ. เห็นด้วยให้หยุดทุกภูมิภาค
วันนี้ (26 ต.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการตามข้อหารือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในคราวประชุม สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เมื่อวันพุธที่ 29 ก.ค. 2563
โดยเป็นข้อหารือลำดับที่ 4.1 ที่ น.ส.เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ขอหารือกรณีขอให้ “วันสารทเดือนสิบ” งานบุญประเพณีของขาวไทยพุทธ เป็นวันหยุดราชการในจังหวัดภาคใต้ โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยทบทวนความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวและแจ้งผลให้ทราบ
หนังสือฉบับนี้ของกระทรวงมหาดไทยระบุว่า ได้เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอเรื่องการกำหนดให้ “วันสารทเดือนสิบ” เป็นวันหยุดราชการ ว่า
ปัจจุบันวันหยุดราชการประจำปี คิดเป็นสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของจำนวนวันในรอบปี ครอบคลุมวันสำคัญทางพุทธศาสนา และเทศกาลสำคัญ เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนสามารถดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องร่วมกับครอบครัวและสังคมได้อย่างเพียงพอและเหมาะสม
“ถือได้ว่าเป็นการเสริมสร้างความเท่าเทียม และเสมอภาคในการหยุดตามเทศกาลของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว จึงเห็นควรคงจำนวนวันหยุดราชการประจำปีไว้เช่นเดิม”
นอกจากนี้ ในการประชุมหารือเพื่อกำหนดวันสารทเดือนสิบเป็นวันหยุดราชการในจังหวัดขายแดนภาคใต้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ก.ย. 2563 ณ ห้องประชุมประสงค์ สุ่นสิริ อาคาร 20 ชั้น 3 ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
“ที่ประชุมได้มีมติให้ “ยุติการดำเนินการ” เรื่องดังกล่าว โดยให้ปฏิบัติตามแนวทางเดิม คือ อำนวยความสะดวกให้ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างที่นับถือศาสนาพุทธได้ร่วมทำบุญในวันสารทเดือนสิบ และมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ต่อไป”
ทั้งนี้ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. มีหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังมีมติเพียงให้อำนวยความสะดวกให้ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างที่นับถือศาสนาพุทธ ได้ร่วมทำบุญวันสารทเดือนสิบ ระบุว่า ศอ.บต.พิจารณาเห็นว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมประเพณีและความเชื่อที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งสร้างความรู้สึกเท่าเทียมและเป็นธรรมต่อการปฏิบัติของส่วนราชการต่อประชาชนทุกศาสนาในพื้นที่ จึงใคร่ขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งส่วนราชการในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างในสังกัด ให้ร่วมทำบุญในวันสารทเดือนสิบ
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้สำเนาเอกสารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตอบข้อหารือ จำนวน 5 ฉบับ เช่น สลค.ได้แจ้งไปยัง ศอ.บต.เมื่อ 16 ต.ค. 2562 ว่าได้แจ้งยุติการดำเนินการเรื่องนี้แล้ว มีใจความว่า แม้ สำนักงาน สมช. และสำนักงาน ก.พ.จะเห็นควรกำหนดเป็นวันหยุดราชการ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เห็นควรกำหนดเป็นวันหยุดทุกภูมิภาคของไทย แต่ สปน.กลับไม่เห็นด้วยเนื่องจากปัจจุบันราชการมีวันหยุดที่มากพอสมควรแล้ว รวมทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใด้มีการกำหนด วันหยุดเพิ่มเติมอีก 3 วัน คือ วันตรุษอีดิ้ลฟิตรี (วันรายอปอขอ) วันตรุษอีดิ้ลอัฏฮา (วันรายอฮัจยี) และวันตรุษจีน โดยพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ส่งเรื่องนี้คืน ศอ.บต. เพี่อนำเรื่องนี้ไปประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน
อีกฉบับ สปน.มีความเห็นเมื่อ 23 ก.ย. 2562 ระบุว่า ปัจจุบันราชการมีวันหยุดที่มากพอสมควรแล้ว ซี่งได้แก่วันหยุดราชการประจำสัปดาห์ (วันเสาร์-อาทิตย์) รวมประมาณ 104 วัน และวันหยุดราชการประจำปีอีก 17 วัน รวมเป็นประมาณ 121 วัน สำหรับ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา มีวันหยุดราชการ เพิ่มเติมอีก 3 วัน
“การกำหนดวันหยุดราชการที่มากเกินไป ย่อมจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติราชการ อีกทั้งการกำหนดให้ “วันสารทเดือนสิบ” ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นอีกจากที่มีอยู่เดิม 4 วันแล้ว อาจทำให้เกิดการเปรียบเทียบและมีความรู้สึกแบ่งแยกทางศาสนาได้”
ดังนั้น กรณีที่ ศอ.บต.เสนอให้กำหนดวันสารทเดือนสิบ (วันแรม 15 คํ่า เดือน 10) เป็นวันหยุดราขการ เพิ่มอีก 1 วัน ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการให้ความสำคัญแก่ศาสนิกชนทุกศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ สำนักนายกรัฐมนตรีจึงไม่เห็นชอบด้วย