วันนี้ (24 ต.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” โดยระบุว่า ตนได้รับข้อมูลจากประชาชนส่งมาให้หลังมีการแพร่หลายในโลกโซเชียลฯ มีการโจมตีว่าร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า 10 เหตุผลที่ไม่ควรเป็นข้ออ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง ซึ่งตนได้อ่านทั้ง 10 ข้อหมดแล้วล้วนแต่เป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น ให้ร้ายรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการชุมนุม มีการปลุกม็อบเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศชาติ ตนคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องชี้แจงให้ประชาชนได้สังคมเข้าใจ พร้อมอธิบายถึง 10 ข้อที่ มีข้อความ ไอลอว์ได้ทำโปสเตอร์เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียว่าตนจึงอยากชี้แจงว่าไม่ใช่เรื่องจริงและใช้จิตวิทยาการเมืองจนสร้างความวุ่นวาย สร้างความขัดแย้งทางความคิดเพราะได้รับข้อมูลเท็จ ดังนี้ข้อ 1.บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยลงรับสมัครเลือกตั้งเองและไม่มีคุณสมบัติ แต่ความจริงแล้วมีชื่อเป็นนายกฯ ในบัญชีจากพรรค พปชร. ซึ่งพรรคได้ลงรับสมัครการเลือกตั้งเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น เช่น พรรคอนาคตใหม่ที่เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เช่นกัน
นายสามารถกล่าวอีกว่า ข้อ 2 อ้างว่าประยุทธ์ถืออำนาจเต็ม คสช.ช่วงระหว่างการเลือกตั้ง โดยในอดีตรัฐบาลปี 2557 ที่มีการประกาศยุบสภาและมีการเลือกตั้งใหม่ ขณะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ รักษาการมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนในปี 2554 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ก็ประกาศยุบสภาในวันที่ 10 พ.ค. 54 แต่ทำหน้าที่รักษาการ แต่สุดท้ายเลือกตั้งแพ้พรรคเพื่อไทย ดังนั้น การเป็นนายกฯ มีอำนาจเต็มเพื่อรักษาการไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าประชาชนจะเลือกหรือสนับสนุน ทั้งนี้ ปัจจุบันข้อมูลเท็จในโลกออนไลน์มีมากมายเพราะแนวความคิดผิดหลักจากความเป็นจริง ข้อ 3 การเลือกตั้งที่ผ่านมา คสช. เขียนกติกาให้ตัวเองได้เปรียบ ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จที่ไม่น่าเชื่อว่ามาจากคนรุ่นใหม่และใช้วาทกรรมใส่ร้ายป้ายสีให้เกิดความเกลียดชัง ไม่ทราบว่าหวังผลอะไรหรือไม่ โดยการเลือกตั้งครั้งดังกล่าวทุกพรรคการเมืองทราบว่าอยู่ในกติกาเดียวกันภายใต้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่ผ่านประชามติจากคนไทยทั้งประเทศ 16.8 ล้านคน และมองว่า พปชร.ได้เปรียบนั้นเป็นเรื่องเท็จเพราะพรรคที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 คือ พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกยุบไปแล้ว ส่วนพรรคการเมืองที่ได้ ส.ส.มากที่สุด คือ พรรคเพื่อไทย แต่ทั้ง 2 พรรคที่กล่าวมามีคะแนนเสียงจากประชาชนเลือกน้อยกว่าพรรค พปชร.ที่ได้คะแนน 8.4 ล้านคน
ข้อ 4 การเลือกตั้งที่ผ่านมา กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นของ คสช. ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะทั้งสององค์กรเป็นหน่วยงานอิสระ ไม่มีใครเข้าไปแทรกแซงได้ คงจำกันได้ว่าเมื่อครั้งการเลือกตั้งที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งนายกรุง ศรีวิไล ส.ส.พรรค พปชร.ก็ถูกใบเหลืองเช่นกัน จึงเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความไม่ยุติธรรมขึ้นมา ข้อ 5 การเลือกตั้งครั้งล่าสุดมีพรรคการเมืองไม่เอา คสช. แถมเจอปิดกั้นสารพัดวิธีก็เป็นเรื่องเท็จเพราะการเลือกตั้งดังกล่าว พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส. มากที่สุด แต่ได้คะแนนน้อยกว่า พปชร.ประมาณ 5 แสนคะแนน ส่วนพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อมากที่สุด ทั้งๆ ที่เสียงจากประชาชนน้อยกว่า พปชร.ร่วมล้านกว่าเสียง ข้อ 6 การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเป็นอันดับสองถูกยุบ คือ พรรคไทยรักษาชาติซึ่งจริงแล้วไม่ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งเลยไม่มีคะแนน ฉะนั้นจึงเป็นข้อมูลเท็จ และหน่วยงานของรัฐควรนำหลักฐานนี้ไปแจ้งความกับคนปล่อยข่าว โดยพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบประชาชนคนไทยทั้งประเทศคงทราบดีว่าเกิดจากอะไรที่กระทำอันมิบังควร
ข้อ 7 ผลการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส.มากที่สุด แต่ได้คะแนนจากเสียงของประชาชนทั้งประเทศน้อยกว่า พปชร. แปลว่าพรรคเพื่อไทยได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากกว่า ข้อ 8 สำหรับผลการเลือกตั้งมีการประกาศว่าพรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุน คสช. มีจำนวนสูงกว่าสองเท่า ตนไม่ทราบว่าบวกคะแนนกันอย่างไรถึงมากกว่าทั้งๆ ที่ พรรค พปชร. ได้ 8.4 ล้านเสียง แต่ พรรคเพื่อไทยได้ 7.8 ล้านคะแนน ดังนั้นจึงต้องบอกน้องๆ ข้อ 9 ผลการเลือกตั้งฝั่งไม่เอา คสช. อ้างว่ามีการรวมเสียงเกินครึ่งสภาก่อน ตนแปลกใจว่ามีการวมมาจากตรงไหนและการนับคะนนยังถือไม่เสร็จสิ้น ยังไม่ได้ประกาศจาก กกต. ที่ชัดเจน แล้วคนที่ไปยืนถ่ายรูปกันก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลได้เลยเป็นเพียงละครฉากหนึ่งเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มม็อบเอง และ ข้อ 10 หากไม่มี ส.ว.250 จะจูงพรรคอื่นเข้าร่วมไม่ได้ ตนคิดว่าถ้าหากจำกันครั้งใช้สถานที่ ทีโอที ซึ่งเป็นรัฐสภาชั่วคราวในการเลือกนายกรัฐมนตรี ฝั่งเลือก พล.อ.ประยุทธ์มีจำนวน ส.ส.เลือกเกินกึ่งนึงโดยไม่ต้องใช้ สว. เลย และการกล่าวอ้างของข้อมูลที่กระจายอยู่ในโซเชี่ยลเป็นข้อมูลเท็จการพูดเช่นนี้เป็นการให้ร้ายรัฐบาล
อยากให้คนปล่อยข่าวลักษณะนี้ควรมีจิตสำนึกต่อบ้านเมืองและน้องๆเยาวชนก่อนจะเชื่อข้อมูลใดควรจะศึกษาความจริงให้รอบด้าน อย่าฟังแต่ข้อมูลบิดเบือนเพราะสุดท้ายแล้วประเทศชาติเป็นของคนไทยทุกคน อย่าให้ใครจูงจมูกเราได้ ผมขอยืนยันว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีความชอบธรรม และมีผู้สนับสนุนรัฐบาลอีกมากมาย โดยผมเห็นภาพบรรยากาศ ที่จ.กาญจนบุรี จ.เพชรบุรี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมคนรักสถาบัน และมี ส.ส.พปชร. เข้าร่วมเทิดทูน อาทิ นายสมเกียรติ วอนเพียร, นายศาสตรา ศรีปาน, นายสุชาติ อุสาหะ, ภูดิท อินสุวรรณ์ เป็นต้น
สุดท้ายนี้ รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหามีการจัดตั้งเปิดวิสามัญ ในวันที่ 26-27 ต.ค. โดยให้ ส.ส. ส.ว. และรัฐบาล หารือร่วมกัน มีพรรคฝ่ายค้านเข้าร่วม เชื่อว่ากลไกรัฐสภาแก้ปัญหาทางการเมืองได้ และอย่าให้ข้อมูลเท็จมาสร้างความแตกแยกกัน ที่ผ่านมาบ้านเมืองบอบช้ำมามากแล้ว ขอให้ทุกคนชู 3 นิ้วแบบ I LOVE YOU แบบรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะถือเป็นจารีตประเพณีของไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ