ป.ป.ช.ชี้มูล “นิรันดร์ ด่านไพบูลย์” นายก อบจ.ลำพูน และพวก ผิด ม.157 ทุจริตจัดซื้อชุดใช้ประจำวันป้องกันติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้สูงอายุ วงเงิน 16 ล้าน ด้านเอกชน 5 บริษัทโดนด้วยผิดอาญาฐานสนับสนุน จนท.รัฐกระทำผิด ส่ง อสส.ดำเนินคดี
วันนี้ (16 ต.ค.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงกรณีการกล่าวหา นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน กับพวกร่วมกันทุจริตจัดซื้อชุดของใช้ประจำวัน (Care Set) วงเงิน 16,343,000 บาท ในโครงการป้องกันผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช.มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน จากการไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 63 จังหวัดลำพูนได้จัดการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน มีผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนเป็นประธาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูนดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์ชุดของใช้ประจำวัน (Care Set) เพื่อสนับสนุนแก่กลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด จำนวน 27,700 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป โดยเป็นผู้ใช้สิทธิหลักประกันถ้วนหน้า และไม่อยู่ในสิทธิหลักประกันของราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือประกันสังคม โดยจัดซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการทำความสะอาดร่างกาย จำนวน 13 รายการ ซึ่งในวันเดียวกัน อบจ.ลำพูนได้อนุมัติจ่ายขาดเงินสะสม ประจำปีงบประมาณ 63 ของ อบจ.ลำพูนเงิน17,174,000 บาท เพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าวโดยไม่มีการสืบหาราคาชุดของใช้ประจำวัน แต่ในการขออนุมัติโครงการดังกล่าวได้มีการผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
โดยข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายนิรันดร์ และผู้บริหารของอบจ.ลำพูนต้องการให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง เป็นคู่สัญญาในการจัดซื้อในโครงการดังกล่าว และมีการกระทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ห้างหุ้นส่วนดังกล่าวโดย ในขั้นตอนการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลาง นายเทวินทร์ วิธี ได้ส่งเอกสารใบเสนอราคาของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง, ร้านรุ่งทิพ เอ็นเตอร์ไพร์ท และห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มพูนโชค ซึ่งเป็นห้างและร้านในกลุ่มเดียวกัน และมีนายเทวินทร์ วิธี เป็นผู้ดำเนินการแทนห้างร้านดังกล่าวทั้งหมด นำมาใช้ในการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางชุดของใช้ประจำวันชุดละ 590 บาท โดยมิได้มีการสืบราคาจากผู้มีอาชีพในท้องตลาดจริง ต่อมานายมนู ศรีประสาท รองนายก อบจ.ลำพูน ปฏิบัติราชการแทนนายกอบจ.ลำพูน ได้อนุมัติเห็นชอบคุณลักษณะและราคากลางดังกล่าว และพนักงานของนายเทวินทร์ วิธี ได้นำตัวอย่างสินค้าซึ่งบรรจุในถุงซิปล็อกพร้อมสติกเกอร์ มาให้นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูนตรวจดู
ในขั้นตอนการจัดซื้อ คณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ได้มีหนังสือเชิญไปยังห้าง/ร้าน จำนวน 5 แห่ง ซึ่งเป็นห้าง/ร้านในกลุ่มเดียวกันและมีความสัมพันธ์กับห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง โดยนายเทวินทร์ วิธี ได้นำห้าง/ร้าน จำนวน 3 ราย มายื่นเสนอราคาประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง, ร้านรุ่งทิพเอ็นเตอร์ไพร์ท และห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มพูนโชค ซึ่งทั้ง 3 ราย ได้เสนอราคารวม 16,343,000 บาท หรือชุดละ 590 บาทเท่ากัน ซึ่ง อบจ.ลำพูนได้เลือกและเร่งรัดให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้งได้เป็นคู่สัญญากับ อบจ.ลำพูน ตามบันทึกข้อตกลงซื้อขาย เลขที่ 53/2563 ลงวันที่ 7 เม.ย. 63 จำนวนเงิน 16,343,000 บาท โดยนายกำธร เนตรผาบ รองนายก อบจ.ลำพูน ปฏิบัติราชการแทน เป็นผู้ลงนามอนุมัติ
สำหรับราคาชุดของใช้ประจำวัน จำนวน 13 รายการนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่าราคาต้นทุนของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง มีต้นทุนของราคาสินค้าชุดละประมาณ 234.24 บาท และจากการสืบราคาจากห้าง/ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าในจังหวัดลำพูน จำนวน 25 ร้านค้า พบว่าราคาเฉลี่ยชุดของใช้ประจำวัน มีราคาเฉลี่ยเพียงชุดละ 315.45 บาท ดังนั้น การจัดซื้อของ อบจ.ลำพูนดังกล่าว จึงเป็นการจัดซื้อในราคาที่สูงกว่าในท้องตลาดทำให้ อบจ.ลำพูนได้รับความเสียหาย เป็นเงินประมาณ7.6 ล้านบาทคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติว่าการกระทำของนายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกอบจ.ลำพูน, นายกำธร เนตรผาบ รองนายก อบจ.ลำพูน, นายมนู ศรีประสาท รองนายกอบจ.ลำพูน, นายเสริมชัย ลี้เขียววงศ์ ปลัด อบจ.ลำพูน นางสุดสงวน จักรคำ รองปลัด อบจ.ลำพูน และนายดรุณพัฒน์ อินดี รองปลัด อบจ.ลูน มีมูลความผิดฐานเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, มาตรา 157 และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10, มาตรา 12 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
นอกจากนี้ การกระทำของนายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์, นายกำธร เนตรผาบ, นายมนู ศรีประสาท ยังมีมูลความผิดฐานมีพฤติการณ์การกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.อบจ. พ.ศ. 2540 มาตรา 77 และการกระทำของนายเสริมชัย ลี้เขียววงศ์, นางสุดสงวน จักรคำ และนายดรุณพัฒน์ อินดีมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนเรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย พ.ศ. 2558 ข้อ 7, 10 ส่วนกลุ่มเอกชนได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี. กรุ๊ป เทรดดิ้ง, น.ส.ณัฐวรรณ รัตนคำนวณ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.พี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง, นายเทวินทร์ วิธี, ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มพูนโชค, นายนิกร ญาณโรจน์ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มพูนโชค, และ นางรุ่งทิพ ทุนอินทร์ เจ้าของร้านรุ่งทิพ เอ็นเตอร์ไพร์ท มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐในความผิดดังกล่าว และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 โดยให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน คำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ดำเนินการหาผู้รับผิดทางละเมิดต่อไป