ทีมโฆษก ทบ.โร่เคลียร์ไม่มีใช้ไอโอทวิตเตอร์อวตารโจมตีฝ่ายตรงข้าม ยันทุกหน่วยใช้ประชาสัมพันธ์งานกองทัพบกเท่านั้น โอดข้อมูลไม่เป็นธรรม ประมวลผลภาพรวมขาดการวิเคราะห์เชิงลึก
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ทวิตเตอร์ได้รายงานการระงับบัญชีผู้ใช้แพลตฟอร์มในประเทศไทยจำนวน 926 บัญชี โดยระบุว่ามีความเชื่อมโยงกับการปฏิบัติด้านข้อมูลข่าวสาร หรือไอโอของกองทัพบก เนื่องจากบัญชีผู้ใช้งานเหล่านั้นเผยแพร่เนื้อหาที่มีลักษณะสนับสนุนกองทัพบกและรัฐบาลไทย อีกยังมีพฤติกรรมโจมตีนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่นว่าในสื่อโซเชียลทั้งหมดที่กองทัพบกใช้นั้นยืนยันว่าใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบก โดยเฉพาะงานช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่างๆ เพราะประเทศไทยในขณะนี้จะมีสถานการณ์ที่วิกฤตเสมอ เช่น ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากพายุ จึงต้องนำสื่อทางโซเชียลมีเดียมาเพื่อรายงานและติดตามสถานการณ์ รวมถึงสั่งหน่วยทหารในพื้นที่ดังกล่าวไปทำหน้าที่เข้าพื้นที่เร็วที่สุด
เมื่อถามว่าจะต้องมีการชี้แจงข้อมูลไปทางทวิตเตอร์หรือไม่ พล.ท.สันติพงศ์กล่าวว่า ขั้นต้นได้ประสานงานยืนยันกับทางทวิตเตอร์ไปแล้วว่าไม่ได้ใช้ในลักษณะตามที่ถูกกล่าวหา แต่ทั้งนี้จะต้องตรวจสอบรายละเอียดบัญชีผู้ใช้งานทั้งหมดที่ถูกระงับ แต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะตรวจสอบได้แค่ไหน ในส่วนของทวิตเตอร์ที่เป็นของกองทัพบกยืนยันว่าใช้ประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบกเท่านั้น ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ที่อยู่ในระบบของกองทัพบกมีการใช้แบบเปิดเผยชัดเจน โดยมีศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบกที่เป็นคณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ดูแลควบคุมการใช้สื่อโซเชียลของกองทัพบก หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก รวมถึงหน่วยระดับกองพล และกองพันลงไป โดยมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากองทัพบกไม่มีนโยบายทำทวิตเตอร์อวตารเพื่อไอโอ
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ต้องตรวจสอบข้อมูลกับทางทวิตเตอร์ก่อนเพื่อดูรายละเอียด แต่จากที่เห็นตามข่าวที่มีการเผยแพร่นั้นเป็นไปในลักษณะการเชื่อมโยงข้อมูลจากบัญชีผู้ใช้ซึ่งไม่สามารถระบุตัวตนได้ แล้ววิเคราะห์สรุปว่ามีความเกี่ยวข้องกับกองทัพบกนั้น น่าจะเป็นข้อสรุปที่ไม่เป็นธรรมต่อกองทัพบก เพราะการประมวลผลภาพรวมขาดการวิเคราะห์เชิงลึก ด้วยบัญชีผู้ใช้ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และไม่ได้มาจากบัญชีที่เป็นทางการของกองทัพบก ประกอบกับเป็นข้อมูลที่เน้นเรื่องจำนวน ความถี่ การแฮชแท็กต่างๆ ที่บุคคลทั่วไป สามารถกระทำในลักษณะดังกล่าวได้โดยอิสระ สำหรับกองทัพบกเองมีการใช้งานทวิตเตอร์เพื่อการสื่อสาร สร้างการรับรู้ระหว่างกองทัพบกกับสาธารณะ และกับกำลังพลภายในองค์กร เป็นทวิตเตอร์ในนามหน่วยงาน ทั้งในส่วนกลางและโดยหน่วยทหารที่จัดทำขึ้นเอง ซึ่งข้อมูลที่ถูกนำเข้าในระบบเป็นความจริง เป็นการสื่อสารที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เช่น การบรรเทาสาธารณภัย และการบริการภาครัฐ ความคืบหน้าในภารกิจต่างๆ ของกองทัพบก สามารถติดตามหรือเข้าไปรับชมได้ในทวิตเตอร์ ชื่อบัญชี “@armypr_news” โดยผู้ที่ติดตามจะทราบว่าเป็นข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ ส่วนคนที่ยังไม่เคยเขามาเยี่ยมชมสามารถเข้าไปติดตามและตรวจสอบข้อมูลได้ รวมถึงในแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างเป็นทางการของกองทัพบกด้วย เช่น เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก”, เว็บไซต์ www.rta.mi.th, Official line “กองทัพบก” อย่างไรก็ตาม เรื่องการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ยืนยันไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ใช่ภารกิจหรือวัตถุประสงค์ในการใช้แพลตฟอร์มทวิตเตอร์ของกองทัพบก