พท.จ่อผุด “คณะผู้บริหาร” ครอบ กก.บห. หึ่ง “หญิงอ้อ” คุมเอง แต่ติดที่ยังไม่เป็นสมาชิก ปูดส่ง “คุณแจ๋ว” เพื่อนซี้เซนต์โยฯล้วงลูกตั้งแต่สมัย “เจ๊หน่อย” เรืองอำนาจ

“เพื่อไทย” เตรียมผุด “คณะผู้บริหาร” หรือ “โปลิตบูโร” ครอบ กก.บห. หึ่ง “หญิงอ้อ” คุมเอง “ชูศักดิ์” แจงคณะฯต้องเป็นสมาชิก แต่ข้อมูล กกต.ยังไร้ชื่อ “พจมาน” เมาท์สนั่นส่ง “เจ๊แจ๋ว” เพื่อนซี้คลุกวงใน พท.ตั้งแต่สมัย “สุดารัตน์” คุมพรรค

ภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยมีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวม 24 คน ซึ่งยังคงนำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคคนเดิม พร้อมกับมีการประกาศแนวทางปรับโครงสร้างการบริหารพรรคใหม่ ไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 63 นั้น

วันนี้ (2 ต.ค. 63) รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า นอกเหนือจากคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่จะมากำหนดทิศทางพรรคในรูปแบบ “คณะผู้บริหาร” ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 58-61 ที่ให้อำนาจคณะกรรมการบริหารพรรคแต่งตั้งสมาชิกพรรค 5-11 คน เป็นคณะผู้บริหาร โดยมีหัวหน้าพรรคเป็นประธานคณะฯ และเลขาธิการพรรคเป็นเลขานุการคณะฯ โดยมีการกำหนดกรอบการทำงานของคณะผู้บริหารดังกล่าวให้คอยกำกับ และกำหนดทิศทางพรรค ก่อนส่งต่อไปให้ คณะกรรมการบริหารพรรค แจกจ่ายงานไปยังส่วนต่างๆ อีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้จะเป็นการทำงานในลักษณะ “Top-Down” หรือสั่งการจากบนลงล่าง ท่ามกลางกระแสข่าวว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเข้ามากำกับคณะผู้บริหารด้วยตนเอง จึงถูกขนานนามว่าเป็น “ซูเปอร์บอร์ด” หรือ “โปลิตบูโร” ในรูปแบบของพรรคคอมมิวนิสต์ในต่างประเทศ

ทั้งนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า โครงสร้างการบริหารใหม่ของพรรคเพื่อไทย จะไม่มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ที่เดิมมี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธาน อีกต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ดูแลด้านกฎหมาย ถึงความเป็นไปได้ในการตั้งคณะผู้บริหาร โดยนายชูศักดิ์ ชี้แจงว่า คณะผู้บริหาร จะเป็นคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรค โดยตำแหน่งแล้ว หัวหน้าพรรคจะไปเป็นประธานคณะฯ และเลขาธิการพรรคจะเป็นเลขานุการคณะฯ แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีการแต่งตั้งหรือไม่ ถ้าจะมี ยังไม่ได้คิดว่า จะมีใครอยู่ในชุดนี้บ้าง ซึ่งผู้จะได้รับแต่งตั้งต้องเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากมีการตั้งจริงคงไม่ใช่ลักษณะโปลิตบูโร ตามที่มีการวิเคราะห์กัน

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า โครงสร้างใหม่ของพรรคเพื่อไทยนั้น จะให้ทางคณะกรรมการบริหารพรรคขับเคลื่อนเป็นหลัก จะมีการมอบหมายงานให้รองหัวหน้าพรรคแต่ละคน เข้าไปดูแลงานด้านต่างๆ เช่น งานด้านนโยบาย งานด้านบริหารพื้นที่ เป็นต้น ส่วนรองเลขาธิการพรรค ก็จะได้รับมอบหมายจาก เลขาธิการพรรคเช่นกันว่า จะให้ไปช่วยงานด้านใดบ้าง ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใดเข้ามาช่วยทำหน้าที่

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า คุณหญิงพจมาน จะเข้ามากำกับการขับเคลื่อนพรรคนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เท่าที่ถามคนในพรรคเพื่อไทยที่เป็นสมาชิกพรรค และแกนนำต่างก็ประหลาดใจกับข่าวดังกล่าว เพราะ คุณหญิงพจมาน ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ต้น กรรมการบริหารก็ไม่ได้เป็น ที่มีข่าวต่างๆ ออกมา คงเป็นการคาดการณ์กันไปเอง เพราะงานขับเคลื่อนพรรคจะมาจากคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก

เมื่อถามว่าคุณหญิงพจมานเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวตอบว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นสมาชิกพรรคหรือเปล่า แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 63 ไม่ปรากฏข้อมูลของ คุณหญิงพจมาน ว่าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตรงกับแหล่งข่าวในพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันว่า คุณหญิงพจมานไม่เคยเป็นสมาชิกพรรค และปัจจุบันก็ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ระบุว่า “ห้ามพรรคการเมือง ยินยอมคนที่ไม่ใช่สมาชิก ควบคุม ครอบงำ ชี้นำ กิจกรรมพรรคการเมือง จนขาดความเป็นอิสระ ทั้งทางตรง และทางอ้อม” โดยบทบัญญัติดังกล่าวมีการกำหนดโทษไว้ถึงยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งนอกเหนือจากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคแล้ว ยังครอบคลุมถึงผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และบุคคลต้องห้าม ที่จะเป็น ส.ส. และสมาชิกพรรคการเมืองด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังจากมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ ไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 63 และมีการปรับโครงสร้างการบริหารพรรค โดยยุบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ของคุณหญิงสุดารัตน์ ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรค และคณะทำงานเกือบทั้งหมดล้วนเป็นสายที่ใกล้ชิดกับคนในตระกูลชินวัตร ทั้ง นายทักษิณ, คุณหญิงพจมาน, นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะ คุณหญิงพจมาน ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่เจรจาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และมีกระแสข่าวว่า กำหนดเข้าร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารอย่างน้อยเดือนละครั้ง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้าในช่วงที่คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์นั้น ปรากฏว่า น.ส.จุฑารัตน์ เมนะเศวต คนสนิทของคุณหญิงพจมาน ที่คนในพรรคต่างเรียกกันว่า “คุณแจ๋ว” หรือ “ป้าแจ๋ว” เข้ามามีบทบาทในการกำกับเรื่องต่างๆ ภายในพรรค โดยมีการกำหนดให้คณะกรรมการ และคณะทำงานต่างๆ คอยรายงานความเคลื่อนไหวให้รับทราบโดยตลอด และเป็นที่รับรู้กันในแวดวงบรรดาแกนนำ, ส.ส. และสมาชิกพรรคว่า “คุณแจ๋ว” เป็นคนที่คุณหญิงพจมานส่งมา ทำให้ทุกคนยำเกรง และให้ความเคารพอย่างสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า สำหรับ น.ส.จุฑารัตน์ นั้น เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเซนต์โยเซฟ คอนเวนต์ ของคุณหญิงพจมาน โดย น.ส.จุฑารัตน์ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการตกแต่งภายใน และแม้จะโลว์โปรไฟล์ด้านชีวิตส่วนตัว แต่ก็เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงสังคมชั้นสูง ในฐานะที่ใกล้ชิดคุณหญิงพจมาน และมีหน้าที่คล้ายกับเป็นเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมานอีกคนหนึ่ง อย่างไรก็ดี น.ส.จุฑารัตน์ เคยปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงม็อบคนเสื้อแดง และถูกอายัดทรัพย์สินจากคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เมื่อเดือน พ.ค. 53 ช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร่วมกับคนสนิทของคุณหญิงพจมาน รายอื่นๆ อาทิ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวผู้ใกล้ชิดคุณหญิงพจมาน และ น.ส.พนิดา ปัญจาบุตร เพื่อนร่วมรุ่นเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ ของคุณหญิงพจมาน