วันนี้ (28 ก.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ได้เปิดเผยกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ขึ้นเวทีปราศรัยบริเวณภายในสวนสาธารณะประตูเมือง ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 63 ว่ารัฐบาลนี้ไม่มีความจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งนายรังสิมันต์ได้ให้ข้อมูลเท็จแก่ประชาชน ตนคิดว่าต้องบอกความจริงกับชาวบ้านว่ารัฐบาลนี้ภายใต้การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ใช้กลไกการเมืองและรัฐสภาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งที่จริงๆ แล้วนายรังสิมนต์และพรรคก้าวไกลไม่ยอมร่วมสังฆกรรมในการตั้งกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายรังสิมันต์ต้องการเพียงปลุกมวลชนลงบนถนน ตนไม่เข้าใจว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างไรเพราะไม่เคยได้นำปัญหาความดือดร้อนของประชาชนเข้ามาแก้ไขในสภาเลย
นายสามารถกล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญต้องแก้ในรัฐสภาเพราะ ส.ว.เองก็มีความจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญดังกล่าวแต่ ส.ว.ต้องการความมั่นใจว่าแก้ไขในประเด็นใดบ้าง ดังนั้น เมื่อมี 6 ญัตติที่ต้องการแก้จึงควรพิจารณาร่วมกันว่าแก้ไขอย่างไรเพราะในบางญัตติก็ยังมีความขัดแย้งกันอยู่และไหนจะยังมีร่างจากประชาชนที่เสนอผ่านไอลอว์เข้ามาอีก ซึ่งการตั้งคณะกรรมาธิการนับว่าเป็นผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติเพื่อจะได้ตกผลึกร่วมกันก่อนที่จะเปิดสมัยประชุมครั้งต่อไปก็จะได้มีข้อมูลจริงว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาอย่างไร และจะแก้ตรงไหนเพื่อให้เกิดผลดีกับสังคม ไม่ใช่มุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างเดียว
“นายรังสิมันต์บอกว่ารัฐธรรมนูญแก้ไขยาก และแก้ไม่ได้นั้นไม่เป็นความจริง เพราะนายรังสิมันต์ไม่มีความรู้หรือข้อมูล แล้วใช้ความอคติทั้ง 4 ที่มีต่อรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติ ซึ่งนายรังสิมันต์เป็นผู้แทนราษฎรจึงควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ และผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงมีการสังฆกรรมครั้งใหญ่เพื่อหนีพรรคก้าวไกล เพราะการทำงานทั้งในและนอกสภา รวมถึงคณะก้าวหน้าเชื่อว่าประชาชนเห็นความเชื่อมโยงชัดเจนว่ามีการพยายามสร้างความวุ่นวายให้ข้อมูลเท็จเพื่อปลุกระดมมวลชน”
วันนี้ได้รับข้อมูลจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่าห้างร้านเอกชนต่างๆ มีความมั่นใจในรัฐบาลที่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวจะเห็นได้ว่ามีการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนและใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจนเริ่มกลับมาคึกคักทั่วประเทศ แต่นายรังสิมันต์กับพวกต่างพยายามพูดร้ายเพื่อให้ประเทศชาติตกต่ำหรือไม่ สุดท้ายอยากให้นายรังสิมันต์เลิกมีอคติแล้วหันมาทำประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง รู้จักกตัญญูต่อแผ่นดินถิ่นเกิด เลิกทำลายประเทศชาติได้แล้ว เดี๋ยว ส.ส.พรรคก้าวไกลจะย้ายพรรคหนีกันหมด จึงเตือนด้วยความเป็นห่วง
